ดาวโจนส์ปิดบวก 176 จุด ดัชนี PCE ชะลอตัว

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 176 จุด หลังรายงานดัชนี PCE ทั่วไปเดือนพ.ย.ชะลอตัวลง สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์นักวิเคราะห์ ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นดีกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 2.07 ดอลลาร์ จ่อ 80 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์บวก 2.94 ดอลลาร์ กว่า 3.63% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดบวกเล็กน้อย
      
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 33,203.93 จุด เพิ่มขึ้น 176.44 จุด หรือ 0.53% หลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,844.82 จุด เพิ่มขึ้น 22.43 จุด, +0.59%
      
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,497.86 จุด เพิ่มขึ้น 21.74 จุด, +0.21%
      
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.9% ดัชนี S&P500 ลดลง 0.2% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.9%
      
ในช่วงแรกตลาดอ่อนตัวลงหลัง การรายงานดัชนี PCE ทั่วไปเดือนพฤศจิกายน ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 6.1% ในเดือนตุลาคม และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% จากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนตุลาคม
      
ดัชนี PCE พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 จากเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนตุลาคมและสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนตุลาคม
      
นอกจากนี้การใช้จ่ายรายบุคคลเดือนพฤศจิกายนชะลอตัวมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

คริส ซัคคาแรลลี่ จากIndependent Advisor Alliance กล่าวว่า มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข่าวดีต่อเป้าหมายสำคัญ แต่ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ลดการใช้จ่ายลง
      
อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นอขงผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.7 สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นและดีกว่า 59.1 ที่นักวิเคราะห์คาด
      
ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 5.8% สู่ระดับ 640,000 ยูนิตดีกว่า 600,000 ยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด แต่เมื่อเทียบรายปีลดลง 15.3% ในเดือนพ.ย.
      
เอียน เชฟเฟอร์ดสัน จากPantheon กล่าวว่า หลังการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในกลางเดือนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์จับตา ดัชนี PCE พื้นฐานปี 2023 ที่เฟดปรับประมาณการขึ้นมาที่ 3.5% จาก 3.1% ซึ่งบ่งชี้ว่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยตลอดท้้งปี 2023 อย่างไรก็ตามหลังการรายงานตัวเลขล่าสุดก็คาดว่าเฟดจะปรับลดประมาณการลงอย่างเร็วสุดในเดือนมีนาคม
      
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพฤศจิกายนเช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 2.1% จากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนตุลาคม ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 และต่ำกว่าการลดลง 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด       
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ เพิ่มขึ้น 0.2%

หุ้นเทสลา ลดลง 2% แม้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาให้คำมั่นว่า จะไม่ขายหุ้นเทสลาออกมาอีกอย่างน้อย 18-24 เดือน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวกเล็กน้อยในวันทำการสุดท้ายก่อนเทศกาลคริสมาสต์หลังความหวังที่จะเห็นตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีหรือ Santa Rally ลดลง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางและไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจทั้งอัตราการเติบโตและเงินเฟ้อ ซึ่งมองว่าการถดถอยของเศรษฐกิจในปี 2023 จะไม่รุนแรงเท่าที่เคยคาดไว้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 427.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด, +0.04
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,473.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด, +0.05%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 6,504.90 จุด ลดลง 13.07 จุด, -0.20%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,940.93 จุด เพิ่มขึ้น 26.86 จุด, +0.19%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 79.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.63% ปิดที่ 83.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล