HoonSmart.com>>หุ้น MOSHI ปิดเทรดวันแรกที่ 32 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 52.38% บล.หยวนต้า เชียร์”ซื้อ”บริษัทฯมีโอกาสเติบโต +32.2% CAGR ระหว่างปี 2565-2569 โดยคาดกําไรปกติปี 65 ที่ 203 ล้านบาท (+55% YoY) จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและสัดส่วนการใช้สินค้าที่ผลิตในต่ํางประเทศมากขึ้น หากมองไปปี 66 คาดกำไรปกติที่ 315 ล้านบาท (+55%YoY) ได้แรงหนุนจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการเปิดประเทศของจีน
หุ้น MOSHI ปิดเทรดวันแรกที่ 32 บาท เพิ่มขึ้น 11 บาท หรือ +52.38% จากราคาขาย IPO ที่ 21 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,358.74 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 35.00 บาท ขึ้นสูงสุด 36.75 บาท และต่ำสุด 31.25 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้นบริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น ณ สิ้น ปี 2566 ที่ 28 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PER Multiple โดยใช้ PER2566 ที่ 26.7 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ค้าปลีกไลฟ์ สไตล์ และร้าน Discount Store ทั้งในไทย (CPALL, CRC) และต่างประเทศ (Miniso, Five Below, Dollarama, Mr.DIY) รวมกับ พรีเมียม 2% จาก Yuanta ESG Rating ที่ระดับ AA เทียบเท่า PEG ที่ 0.8 เท่า (อิงการเติบโต +32.2% CAGR ระหว่างปี 2565-2569)
ผลประกอบการของบริษัทฯมีโอกาสเติบโต +32.2% CAGR ระหว่างปี 2565-2569 จาก 1) กําลังซื้อและระดับการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย 2) อัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มขยายตัว ได้ในระยะยาวจากสัดส่วนการใช้สินค้าที่ผลิตในจีนที่เพิ่มขึ้น หลังจีนเปิดประเทศในช่วงครึ่งหลังปี 66 และค่าขนส่งระหว่างประเทศที่ปรับตัวลง (หนุนการขยายตัวของอัตรากําไรขั้นต้น) และ 3) การขยายสาขา ร้านค้า อย่ํางต่อเนื่อง โดยคาดกําไรปกติปี 2565 ที่ 203 ล้านบาท (+55% YoY) จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและสัดส่วนการใช้สินค้าที่ผลิตในต่ํางประเทศมากขึ้น (อัตรากําไรขั้นต้นสูงกว่า)และหากมองไปปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 315 ล้านบาท (+55%YoY) โดยได้แรงหนุนจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว (หนุนกำลังซื้อในประเทศ)และการเปิดประเทศของจีน
MOSHI ดําเนินธุรกิจร้านค้าปลีก และร้านค้าส่ง สินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย และมีคุณภาพในราคาที่ย่อมเยา ภายใต้แบรนด์ “Moshi Moshi” มีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ 37.6% สูงเป็นอันดับ 1 ในไทยปัจจุบัน MOSHI มีเครือข่ายร้านค้ารวม 101 สาขา และมีสินค้าราว 22,000 SKUs (ณ สิ้น 9 เดือนปี 65) ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าที่มีการใช้ในชีวิตประจําวัน(เครื่องเขียน อาหาร และเครื่องดื่ม) ไปจนถึงสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัทฯมีการขายผ่าน 4 ช่องทาง คือ ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้าน Pop-up Store และช่องทาง E-Commerce โดยสัดส่วนการขายผ่านร้านค้าปลีก และร้านค้าส่ง คิดเป็น 99% ของรายได้ทั้งหมด (อิงงบ 9 เดือนปี 65) โดยบริษัทฯสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เช่น Daiso และ Miniso ได้จากการตั้งราคาขายที่ถูกกว่า (เริ่มต้น 20 บาท) และการออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย