SM ชูเจ้าถิ่นเช่าซื้อตะวันออก ส่งสัญญาณศก.ฟื้น- EEC หนุนโต

HoonSmart.com>>SM ชูเจ้าถิ่นรายใหญ่ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า – ปล่อยสินเชื่อ โซนภาคตะวันออก คาดปี 2566 ผลงานเติบโตต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และ EEC หนุน “ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม” มั่นใจเงินระดมทุน เสริมศักยภาพธุรกิจ  สร้างผลตอบแทนที่มั่นคง และยั่งยืน

ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม

นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ มันนี่ (SM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมซื้อขายวันแรกในตลาด SET วันที่ 20 ธ.ค. นี้ เป็นอีกก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืน และมั่นใจว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนจะสนับสนุนโอกาสการเติบโต พร้อมเดินหน้าพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สินเชื่อทางการเงินใหม่ ๆ ที่หลากหลาย พร้อมทั้งขยายและเสริมศักยภาพสาขา ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการตามจังหวัดที่สำคัญของประเทศ

สำหรับจุดแข็งของ SM มีกลุ่มลูกค้าภาคตะวันออกซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากการขยายของ EEC ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ SM สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

สำหรับ เงินจากการระดมทุน  583 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) นำไปใช้ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อทุกประเภท ขยายสาขา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และ/หรือประกันชีวิต เป็นต้น

นอกจากนี้ ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต , ยกระดับมาตรฐานของบริษัทฯ เข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการเติบโตในอนาคต

สำหรับแผนธุรกิจในระยะยาว หลังจากได้เงินจากการระดมทุน SM จะเน้นใน Core Business ที่บริษัทฯมีความชำนาญอยู่แล้ว เพื่อรองรับการเติบโตของ EEC โดยบริษัทจะพยายามรักษาระดับการเติบโตของธุรกิจการให้สินเชื่อให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงให้มากขึ้น ซึ่งจะรักษาอัตราส่วน Loan Yield และ Net Interest Margin ให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี รวมถึงแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ SM ประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ 1. จำหน่ายสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ตู้แช่ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งขายเงินสดและผ่อนชำระโดยจัดทำเป็นสัญญาเช่าซื้อ บริษัทฯ ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่และเป็นที่รู้จักในภาคตะวันออกโดยจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านสตาร์มันนี่” เป็นหลัก

และ 2. ปล่อยสินเชื่อ ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่มีหลักประกันอื่น ๆ เช่น ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการด้านอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น นายหน้าประกันวินาศภัย รวมถึงบริการซื้อประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) และต่อภาษีประจำปีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น

นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)  ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า มั่นใจหุ้น SM เข้าซื้อขายใน 20 ธ.ค.นี้ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจาก ช่วงที่เปิดเสนอขายหุ้นในช่วงที่ผ่านมา กระแสความต้องการหุ้น SM มีมากกว่าจำนวนที่จัดสรร นอกจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SM แล้ว การกำหนดราคา IPO 2.04 บาท ถือเป็นราคาเหมาะสม เป็นที่สนใจนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นเติบโตรับเศรษฐกิจฟื้นตัวในอัตราเร่ง

เชื่อว่า SM จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจที่คร่ำหวอดในวงการมานานกว่า 30 ปี มีจุดแข็งคือประสบการณ์และมีความชำนาญในพื้นที่ภาคตะวันออก ผู้บริหารรู้จักลูกค้าและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในพื้นที่ค่อนข้างดี เน้นการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าจึงทำให้มีลูกค้าเดิมและใหม่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้  SM ยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิอีกด้วย

ด้านผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 SM มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,066.84 ล้านบาท เติบโต 12.09% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 80.79 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าสัดส่วน 61.87% รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ 5.86% รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืม 28.28% รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการและรายได้อื่นอยู่ที่ 3.99% พร้อมด้วยการควบคุมลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ 4.48%

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ SM อาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ในอนาคต คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้นตัว มีปัจจัยหนุนจากการขยายตัว EEC และเงินระดมทุนพร้อมสนับสนุนแผนการเติบโตของบริษัทฯ