บลจ.ทาลิสขายกองใหม่ลุยหุ้นแบรนด์ดังระดับโลก

HoonSmart.com>> บลจ.ทาลิส แนะจังหวะดีลงทุนตลาดต่างประเทศ เสนอขายกองทุนเปิด MEGA10 และ MEGA10RMF ลงทุนหุ้นแบรนด์ชั้ยนำระกับโลก จดทะเบียนในตลาด NYSE และ NASDAQ

ประะภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์

 
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส เปิดเผยถึงสถานการณ์การลงุทนในช่วงนี้ ว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีเหมาะสำหรับการลงทุน ทั้งจากการที่ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ มีการปรับตัวลดลงจากความกังวลในเรื่องภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทาลิสจึงมองเห็นโอกาสในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี ของการลงทุนในการเปิดเสนอ ขาย “กองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดเพื่อการออม(MEGA10-SSF) และกองทุนเปิด MEGA 10 เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10RMF)”

อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์จากหลายสำนักได้ให้มุมมองถึงเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ขณะนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและจะค่อย ๆ เริ่มชะลอ ดังนั้นการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงมีแนวโน้มลดลงตามไปด้วย

อีกทั้งยังมีข้อมูลของทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7% การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการลดลงของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

สำหรับกองทุนเปิด MEGA10 และ MEGA10RMF เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายในงซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) จากการจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับตราสินค้า (Brand) ระดับสากล และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และมีสภาพคล่องสูงสุด 10 บริษัทแรกโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนนี้ ลงทุนตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์และการบริหารจัดการที่กำหนด (Rules Based Approach) โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัดในระยะยาว

“บริษัทที่มีแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจะมีกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์อย่างชัดเจน จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่ง มีผลทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรที่ดีกว่า ดังนั้น จึงเสมือนมีเกราะป้องกันแรงกระแทกจากผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอย” นายประภาสกล่าว

ทั้งนี้ บลจ.ทาลิส เปิดเสนอขายกองทุนเปิด MEGA 10 (MEGA10) ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10-A) ชนิดเพื่อการออม (MEGA10-SSF) และ กองทุนเปิด MEGA 10 เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10RMF) ระหว่างวันที่ 8 – 20 ธ.ค. 2565 ลงทุนครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท กรณีขายคืน ผู้ลงทุนจะได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่คำนวณ NAV (โดยทั่วไปจะได้รับเงิน 3 วันทำการหลังวันทำรายการขายคืน (T+3))

นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดเพื่อการออม (MEGA10-SSF) และในกองทุนเปิด MEGA 10 เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10RMF) ระหว่างช่วง IPO จนถึงสิ้นปี 2565 โดยรวมยอดโอนกองทุน LTF/RMF/SSF และ/หรือลงทุนในกองทุน SSF และ RMF โดยมียอดโอน และ/หรือลงทุนสะสมสุทธิระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – 30 ธันวาคม 2565 ทุก ๆ 25,000 บาทจะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดทาลิส ตลาดเงิน (TLMMF) มูลค่า 50 บาท สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนภายในช่วงเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

ทั้งนี้ บลจ.ทาลิส จะทำการโอนหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ได้รับสิทธิ์ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 บลจ.ทาลิส ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและคำตัดสินของ บลจ.ทาลิส ไม่ว่าประเด็นใด ๆ ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด

กองทุนนี้ลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงที่ประเทศที่ลงทุนอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด และ กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการที่กองทุนนำเงินบาทไปลงทุน ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนตํ่ากว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และความเสี่ยงในการกระจุกตัวของหลักทรัพย์และอุตสาหกรรม โดยเข้าลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจำนวน 10 บริษัท (โดยประมาณ) และไม่มีข้อกำหนดในสัดส่วนสูงสุดในการลงทุนในแต่ละหมวดอุตสาหกรรม