ส่งออกต.ค.พลิกติดลบครั้งแรก ยันทั้งปีโตเกิน 4% ศก.โลก-โควิดจีนฉุด

HoonSmart.com>>”ส่งออก”หดตัวหนัก กระทรวงพาณิชย์เผยเดือนต.ค.65 พลิกติดลบ- 4.4% ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน นำเข้าหดตัว -2.1% ทำให้ขาดดุลการค้า 596 ล้านดอลลาร์ โดยส่งออกสินค้าเกษตร หดตัวมากสุด -4.3% อุตสาหกรรมหดตัว -3.5% เชื่อทั้งปีนี้ยังสามารถโตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% แนวโน้มปี 66 ยังประเมินไม่ได้ ขอดูฐานปีนี้ ยอมรับเศรษฐกิจโลกชะลอฉุด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกในเดือนต.ค.65 มีมูลค่า 21,772 ล้านดอลลาร์ หดตัว -4.4% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 22,368 ล้านดอลลาร์ หดตัว -2.1% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 596 ล้านดอลลาร์   โดยรวมส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 243,138 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.1% การนำเข้า มีมูลค่า 258,719 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 18.3% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 15,581 ล้านดอลลาร์

“ส่งออกในเดือน ต.ค.พลิกมาติดลบครั้งแรกในรอบ 19 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2564 ที่ติดลบ -4.1% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน”

ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกดดันการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และในปี 2566 คือ ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก มาตรการ Zero Covid ของจีนที่ยังไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง รวมถึงดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของประเทศคู่ค้าสำคัญลดลงต่อเนื่อง  แต่ยังมั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้ จะขยายตัวได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% อย่างแน่นอน

ทั้งนี้หากแยกการส่งออกเดือนต.ค.65 ตามรายกลุ่มสินค้า จะพบว่าการส่งออกสินค้าเกษตร มีมูลค่า 1,915 ล้านดอลลาร์ หดตัว -4.3% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร มีมูลค่าการส่งออก 1,688 ล้านดอลลาร์ หดตัว -2.3% สินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการส่งออก 17,939 ล้านดอลลาร์ หดตัว -3.5% สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่มูลค่าการส่งออกลดลง เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เนื่องจากผลของราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง, อุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ จากปัญหาการขาดแคลนชิป และปัญหาการขนส่ง, เหล็กและผลิตภัณฑ์ จากผลของราคาเหล็กในตลาดโลกลดลง รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนการส่งออกในระยะต่อไป ได้แก่ หลายประเทศทั่วโลกทยอยยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทาง, กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าในกลุ่มตะวันออกกลางมีการเติบโตตามรายได้ของภาคพลังงาน, ผู้ผลิตในประเทศ ได้รับมอบเซมิคอนดักเตอร์เข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง, ผู้นำเข้าแสวงหาวัตถุดิบทดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต, เงินบาทที่อ่อนค่า และมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออกจากกระทรวงพาณิชย์

สำหรับตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดีในเดือน ต.ค. คือ สวิสเซอร์แลนด์ เติบโต 103.5%, ซาอุดีอาระเบีย 49.6%, ลาว  28.8%, ออสเตรเลีย 18.8%, เวียดนาม    13.3%, ไต้หวัน   6.3%, กัมพูชา  5.2%, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  4.1%, สหราชอาณาจักร   3.7% และเม็กซิโก  1.1%

การส่งออกในช่วงจากนี้ไป จะต้องเผชิญกับแรงเสียดทานจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้ไปจนถึงปี 2566 แต่ภาพรวมทั้งปีนี้เชื่อว่ายังเป็นบวกได้อยู่ จากการประเมินร่วมกับภาคเอกชน ยังสามารถโตได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 4% โดยอาจจะโตได้เกือบเท่าตัว ส่วนเป้าส่งออกปี 2566 ยังไม่ขอประเมิน ขอดูฐานการส่งออกของปีนี้ก่อน