“เสี่ยยักษ์-เสี่ยป๋อง” ส่องกรณีหุ้น MORE ป่วนทั้งวงการ

HoonSmart.com>>”เสี่ยยักษ์”(วิชัย วชิรพงศ์)-“เสี่ยป๋อง”(วัชระ แก้วสว่าง) ส่องเหตุการณ์กรณีหุ้น MORE ชี้ให้เห็นไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับขบวนการปั่นหุ้น บล.เอเชีย เวลท์ ถูกระงับทำธุรกิจด้วยเหตุดึงเงินลูกค้าไปใช้ ทำให้เสียเครดิตยากที่จะกู้คืนมา ทางแก้ขายกิจการ โบรกฯควรเข้มงวดปล่อยมาร์จิ้น  ส่วนตลาดหลักทรัพย์ควรตรวจสอบซื้อขายให้เข้มขึ้น ด้านลูกค้าหมั่นดูแลตรวจสอบเงินในบัญชีตัวเอง พร้อมเสนอให้ลูกค้าเทรดหุ้นด้วยบัญชี Cash Balance อย่างเดียว โบรกเกอร์ปลอดภัยมีหลักประกัน  

นายวิชัย วชิรพงศ์ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับการซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) คนที่เกี่ยวข้องจะมาบอกไม่รู้เรื่อง สังคมไม่เชื่อดีที่สุดนักลงทุนอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการปั่นหุ้น เรื่องนี้ตลาดหลักทรัพย์จะต้องเข้ามาจัดการ ไม่งั้นจะปล่อยให้โบรกเกอร์ปิดกิจการไปเลยเหรอหลังเกิดเรื่อง ส่วนบล.เอเชียเวลท์ (AWS) ก.ล.ต.สั่งระงับการทำธุรกิจ เนื่องมาจากนำเงินในบัญชีของลูกค้าไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือไป ซึ่งเครดิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ หากเสียไปแล้วก็ยากที่จะกู้คืนกลับมา ทางแก้ไขอาจจะต้องขายกิจการให้คนอื่นเข้ามา แต่จากนี้ไปนักลงทุนก็คงจะต้องระวังแล้ว ต้องคอยตรวจสอบบัญชีของตัวเอง

“มันผิดตั้งแต่ต้นที่เข้าไปร่วมขบวนการหุ้นปั่น ที่ไล่ราคาหุ้น MORE จาก 0.30 บาท ขึ้นไปถีง 3 บาท เชื่อว่ายังมีหุ้นตัวอื่นอีกหลายสิบตัว สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตลาดอึมครึม สำหรับโบรกเกอร์ที่ปล่อยมาร์จิ้นให้ลูกค้าก็ควรจะเข้มงวดขึ้น โบรกเกอร์ที่มีข่าวพัวพันผมก็ถอยออกมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว(14 พ.ย.) ซึ่งเดิมผมเปิดกับโบรกฯเล็ก 1-2 ล้านบาท เขามาขอให้ช่วยเปิดบัญชีให้หน่อย ก็ช่วยกันไป แต่ก็ไม่ได้ทำธุรกรรมอะไร เปิดเฉย ๆ แต่ก็ถอยออกมาหมดล่ะ ตอนนี้ผมเป็นลูกค้าแต่กับโบรกเกอร์ใหญ่ ๆ หลังจากเกิดเรื่องผู้บริหารโบรกเกอร์มีการจัดการเข้มงวดขึ้น  จากนี้ไปหุ้นตัวไหนที่เสี่ยงก็จะ List ออกมา แล้วลดวงเงิน ไปจนถึงไถ่ถอน”

“ทำได้ยังไงยักย้ายเงินไปจ่ายอีกก้อนหนึ่ง มันเหมือนทุจริตเลย ลูกค้าไม่รู้เรื่องเลย มันผิดมหาศาล เรื่องนี้ไม่น่าจบ คนขายหุ้น ถ้าได้เงินไปจะเสียหนักเลย ไม่สมควรให้คนขายเอาเงินออกไปได้”เสี่ยยักษ์กล่าว

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ตลาดหุ้นเล่นยากมาก ๆ ระบบ AI (อย่าง Block Trade) ทำให้หุ้นขึ้นไปไม่ได้ สังเกตุหุ้นบางตัวกำไรเป็นหมื่นล้านบาท  แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปตอบรับไม่ได้ เพราะทำท่าจะขึ้นก็โดน AI ขายออกมา อีกอย่างด้วยระบบทางบัญชี ที่แจ้งกำไร 100 ล้านบาท แต่กำไรจริงแค่ 10 ล้านบาท แล้วเอารายการพิเศษไปซ่อนไว้ด้านหลัง ทำไมไม่โชว์ออกมาด้านหน้า จะได้เห็นกันชัดเจน

ด้านนายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ที่รู้จักกันในนาม “เสี่ยป๋อง” เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น MORE นาน ๆ จะเกิดขึ้นที และหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ในแง่ของนักลงทุนควรจะต้องมีการตรวจสอบดูแลเงินของตัวเอง มาร์เก็ตติ้งก็ต้องหาคนที่ไว้วางใจได้ เพราะมาร์เก็ตติ้งจะมีรหัสเงินเข้า-ออกของบัญชีลูกค้า

“ทุกวันนี้ผมเช็คเงินในบัญชีทุกวัน ไม่มีใครถอนเงินผมได้ ถ้าถอนออกมาผมก็รู้ ดังนั้นต้องเตือนให้ดูแลเงินตัวเอง หุ้น MORE ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงเร็วมากในการติดฟลอร์ ผมจะเชื่อในการเล่นหุ้นตามกราฟ อย่างเรื่องของ MORE ที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้น แต่กราฟบอกเราได้จากตัวเลขที่ร่วงลงไป ผมเห็นราคาหุ้น MORE หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 2.50 บาท แป๊บเดี๋ยวร่วงติดฟลอร์ 1.95 บาท ซึ่งถ้าไม่เฝ้าจอไว้ไม่ทันหรอก แต่หุ้นตัวนี้ผมไม่ได้เล่นนะ”

เสี่ยป๋อง กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของการเล่นหุ้นจากกรณีของ MORE อาจทำให้มีการยกเลิกการเล่นหุ้นด้วยบัญชีเงินสดธรรมดา แล้วให้เล่นแต่บัญชีเงินสดแบบ Cash Balance โดยจะเล่นหุ้น ต้องวางหลักประกันก่อน ซึ่งก็ปลอดภัยสุด สำหรับโบรกเกอร์ เพราะสามารถล็อกหลักประกันได้ กรณีของ MORE โบรกเกอร์คงจะมีมาตรการป้องกันมากขึ้น และทางการก็ต้องเข้มงวดในการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นมากขึ้น ซึ่งเห็นใจโบรกฯเหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ และความเชื่อมั่นก็เป็นสิ่งสำคัญหากโดนบั่นทอนไป ใครจะเชื่อถือ

“เมื่อปี 2535 เคยมีกรณีการคีย์ออเดอร์หุ้น AITCO ปิดพลาดไป ซึ่งคนขายจะขาย 2 หมื่นหุ้น แต่พนักงานคีย์ขายไป 20 ล้านหุ้น คนก็ไล่ซื้อจนหมด สุดท้ายตลาดฯก็ยกเลิกทั้งหมด มูลค่าราว 7-8 พันล้านบาท ซึ่งถ้าไม่ยกเลิกจะเจ็บปวดกันหมด แต่กรณีของ MORE มันแตกต่างกัน การจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ”