“คิงส์ฟอร์ด” แนะ AOT-CPALL

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดตลาดหุ้นได้แรงหนุนฟันด์โฟลว์ แนวโนเมกำไรบจ.ไตรมาส 4/65 แนะเก็งกำไร AOT, MINT, CENTEL, ERW, EKH, CPALL, CPN, CRC, CBG จีนเริ่มคลายมาตรการคุม Covid-19 แนะ BH, BDMS, CPF, TU, EA, GSPC, SCC, SCGP, PTTGC หุ้นเด่นชู AOT, CPALL

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,625 – 1,630 จุด แนวต้าน 1,640 – 1,650 จุด ได้แรงหนุนจาก Fund Flow และแนวโน้มกำไร บจ. Q4/65 ฟื้นตัว QoQ แนะนำเก็งกำไร AOT, MINT, CENTEL, ERW, EKH, CPALL, CPN, CRC, CBG จีนเริ่มคลายมาตรการคุม Covid-19/ BH, BDMS, CPF, TU, EA, GSPC, SCC, SCGP, PTTGC ปัจจัยหนุนจากAPEC 22 เน้นลงทุน BCG )

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 คาดเห็นโมเมนตัมการฟื้นตัวต่อเนื่อง ดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY หนุนจากปริมาณเที่ยวบินอยู่ที่ 1.2 แสนเที่ยวบิน +14%QoQ, +343%YoY จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 17.4 ล้านคน +29%QoQ, +1,654%YoY โดยสัดส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศขยับขึ้นมาเป็น 42.8% หลังจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลบวกต่อรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขาออก รายได้ Concession และรายได้ค่าจอดเครื่องบินสูงขึ้น

สำหรับแนวโน้ม 1Q65/66 (ต.ค.-ธ.ค.) เบื้องต้นในเดือน ต.ค.จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 7 ล้านคน เพิ่มขึ้น +24%MoM และมีโมเมนตัมเร่งตัวขึ้นต่อในช่วงที่เหลือจนถึงสิ้นปี ส่งผลให้มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ในรอบ 10 ไตรมาส โดยในปี 65/66 เราคาดกำไร 1 หมื่นล้านบาท ภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสาร 46 ล้านคน

หุ้น CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี 66 75.50 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 3,677 ล้านบาท (+146.28% YoY, +22.40% QoQ) สูงกว่าคาด ด้านรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 207,617 ล้านบาท (+65.61% YoY, -0.29% QoQ) โดย ยอดขายร้านสะดวกซื้อ(7-11) สามารถขยายตัวมาอยู่ที่ 90,667 ล้านบาท (+32.95% YoY, +2.54% QoQ) จากภาพรวมประชากรมี Traffic การเดินทางเพิ่มขึ้น

ขณะที่ยอดขาย Cash&Carry(Makro) + Lotusอยู่ที่ระดับ 114,964 ล้านบาท (+110.02% YoY, -2.52% QoQ) ในเชิงของกำไรแล้วสามารถขยายตัวได้หลักๆจากสัดส่วนยอดขาย 7-11 ที่เพิ่มขึ้น(ประเภทสินค้าที่ขายของทางฝั่ง 7-11 จะมีมาร์จิ้น สูงกว่าอาหารสดMakro) ส่งผลให้ GPM และ NPM ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 21.77% และ 1.77% ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิของปี 65 และ 66 อยู่ที่ 14,675 ล้านบาท (+13.01%YoY) และ 20,964 ล้านบาท (+36.93%YoY) ตามลำดับ