MFC ชี้โอกาสลงทุนหุ้นเอเชีย ศก.เติบโตสูงหนุนขาขึ้นระยะยาว

HoonSmart.com>> “บลจ.เอ็มเอฟซี” มองแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียเติบโตสูง หลายประเทศขยายตัวก้าวกระโดดขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนจากการบริโภคของชนชั้นกลางเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ด้านท่องเที่ยว กิจกรรมในประเทศฟื้นหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว กำไรบจ.โตโดดเด่น ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยต่ำ ด้าน P/E หุ้นต่ำราคายังถูกหนุนหุ้นอยู่ในจังหวะขาขึ้นช่วงระยะยาว มองโอกาสงทุนหุ้นเอเชีย เตรียมออกกองทุน “เอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า” (M-ASIA) เสิร์ฟนักลงทุน

ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) กล่าวถึงการลงทุนในหุ้นเอเชียว่า บริษัทฯ มองว่าการเติบโตและรายได้เศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศสิงคโปร์, ฮ่องกง, และเกาหลีใต้ ยังคงอยู่ในอัตราที่สูงและจะก้าวกระโดดขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจัยด้านโอกาสการเติบโตจากการบริโภคของชนชั้นกลาง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมากขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว, กิจกรรมในประเทศ

นอกจากนี้มองแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียยังคงอยู่ในจังหวะขาขึ้นช่วงระยะยาว (Long-Term Trend) จากหุ้นเติบโต ขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ จึงมองตลาดหุ้นเอเชียเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตามองในแง่การลงทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

ด้าน Bloomberg Consensus คาดการณ์ตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น (ดัชนี MSCI Asia Ex. Japan มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในปี 2566 และ 2567 โดยมีกำไรต่อหุ้นเติบโต 5% และ 4.9% ตามลำดับ ขณะที่สหรัฐฯ เติบโต 0.40% และ 1.40% ตามลำดับ ส่วนยุโรปเติบโต 0.2% และ 1.7% ตามลำดับและญี่ปุ่นเติบโต 1.4% และ 1.1% ขณะที่ปี 2565 คาดกำไรต่อหุ้นในภูมิภาคเอเชียเติบโตสูงกว่าเช่นกันอยู่ที่ 3.5% สหรัฐฯ เติบโต 1.70% ยุโรปเติบโต 3.3% และญี่ปุ่นเติบโต 1.6%

ขณะที่ P/E ตลาดหุ้นเอเชีย ดัชนี MSCI Asia Ex. Japan อยู่ในระดับต่ำ 10.27 เท่า เมื่อเทียบดัชนี S&P500 อยู่ที่ 18.82 เท่า ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอยู่ที่ 16.46 เท่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี TOPIX อยู่ที่ 14.44 เท่า ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ที่ 14.31 เท่า เป็นต้น

นายธนโชติ กล่าวว่า MFC มีแผนออกกองทุนใหม่ ชื่อ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า” (M-ASIA) ลงทุนใน Fullerton Lux Fund – Asia Absolute Alpha เน้นลงทุนในหลักทรัพย์คุณภาพหรือหุ้นจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค อาทิ ‘Singapore Telecommunications ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย, Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ระดับโลก เป็นต้น โดยกองทุนดังกล่าว บริหารจัดการโดยทีมบริหารกองทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนมามากกว่า 25 ปี

“กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า จะเป็นอีกหนึ่งมุมมองการลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่สร้างประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับทุกท่านได้อย่างยั่งยืน”นายธนโชติ กล่าว

พร้อมกันนี้ MFC ได้จัดสัมมนา Exclusive Seminar: The Promising Era of Asia ในหัวข้อ ‘โอกาสลงทุนในเอเชียและกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า (M-ASIA)’ ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กองทุนกำลังอยู่ระหว่างอนุมัติจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และจะเสนอขายภายหลังการอนุมัติ

สำหรับกองทุน Fullerton Lux Fund – Asia Absolute Alpha ซึ่งเป็นกองทุนหลัก เน้นการบริหารในเชิงรุก กลยุทธ์การลงทุนแบบ high conviction portfolio โดยใช้ Botoom-up approch และใช้ top-down factors เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบ absolute return ลงทุนโดยคัดเลือกหุ้นรายตัวสามารถหาผลตอบแทนส่วนเกิน (Alpha) ได้ดีกว่าการคัดเลือกประเทศ ซึ่งมองตลาดหุ้นเกิดใหม่สามารถหาผลตอบแทนส่วนเกินได้ง่ายกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว จากมุมมองว่าตลาดหุ้นเอเชียยีงอยู่ในภาวะผันผวนสูงต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่ตลาดขาลงจับจังหวะได้ยากกว่าตลาดขาขึ้น

กองทุนหลักตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 8-10% ต่อปี ในระยะเวลา 3-5 ปี ซึ่งในรอบ market cycle หรือประมาณ 3 ปีย้อนหลังทำผลตอบแทน 10% และตั้แต่จัดตั้งกองทุนผลตอบแทนเฉลี่ย 8.30% ต่อปี

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียมีโอกาสเคลื่อนไหวออกข้างในกรอบใหญ่ในระยะยาว ทำให้การบริหารกระแสเงินและให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นมีส่วนสำคัญต่อพอร์ตการลงทุน ซึ่งในช่วงสถานการณ์ภาพเศรษฐกิจใหญ่มีความไม่แน่นอนสูง กองทุนหลักถือเงินสดสูงถึง 40% และถือครองหุ้นลดลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงเมื่อหุ้นปรับตัวลดลง แต่จังหวะที่เห็นโอกาสก็เพิ่มน้ำหนักในหุ้น โดยถือเงินสดไม่ถึง 5%