TAPAC เตรียมลุยอสังหา ฯ ในไทย เล็งโครงการรองรับอีอีซี ตั้งเป้าธุรกิจความงาม 3 ปี เข้าตลาดหุ้นเอ็มเอไอ
นายณัฎฐพงษ์ ปัญจวรญาณ ประธานกรรมการ บริษัท ทาพาโก้ ( TAPAC ) เปิดเผย “ Hoonsmart.com “ ว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย หลังจากที่ประสบความสำเร็จธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวีเดน ภายใต้บริษัทลูกชื่อ C4 Hus AB ซึ่งธุรกิจอสังหาในไทย มีความสนใจศึกษาโครงการรอบ ๆ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อรองรับการเติบโตของอีอีซีในอนาคต
ก่อนหน้านี้ TAPAC ได้แตกไลน์ธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอีเลคทรอนิคส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ชื่อบริษัท C4 Global จำกัด ซึ่งเปิดสาขาแรกเป็นสาขาเดี่ยว ( stand alone ) ชื่อ hej street beauty ที่อาคารญาดา ถนนสีลม รูปแบบมีความแตกต่างจากร้านทั่วไป ตามคำนิยามนิว คอนเซ็ป Shop , Chill , Charge & Share
ทั้งนี้ คำว่า Hej เป็นภาษาสวีเดน แปลว่า สวัสดี
“ผู้บริหารทาพาโก้ มีความชำนาญและประสบความสำเร็จการทำอสังหาริมทรัพย์ในสวีเดน จึงต้องการกลับมาพัฒนาอสังหา ฯ ในประเทศไทย ขณะเดียวกันได้แตกไลน์สู่ธุรกิจเครื่องสำอางที่ยังมีโอกาสเติบโต แม้ว่าการแข่งขันสูง แต่ผู้เล่นรายใหม่ ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อให้ธุรกิจนี้แข่งขันได้”ประธานกรรมการกล่าว
สำหรับโครงสร้างรายได้ปีนี้ของ TAPAC มี 3 ขา คือ 1.ชิ้นส่วนพลาสติก ปีนี้คาดเติบโตราว 50 % ตั้งเป้ารายได้ 900 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากฐานลูกค้าใหม่ 2-3 ราย และลูกค้าเก่าที่มีคำสั่งสินค้าเพิ่ม 2. รายได้ธุรกิจเครื่องสำอาง 200-300 ล้านบาท และ 3. รายได้อสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวีเดน ที่ปีนี้ธุรกิจทรงตัวจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,800 ล้านบาท
“ภาพรวมรายได้ TAPAC ปีนี้คาดการณ์เติบโตได้ประมาณ 20 % หรือมีรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,300 ล้านบาท การเติบโตนี้มาจากธุรกิจใหม่เครื่องสำอาง ตั้งเป้าปีนี้จะมีสาขา 10 สาขา” ประธานกรรมการ กล่าว
นางสาวจารุวัลย์ วงศ์เจษฏาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท C4 Global กล่าวว่า บริษัท ฯ มีเป้าหมายระยะยาว 3 ปี เปิดสาขา 100 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนั้นนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับปีแรก ตั้งเป้าเปิด 10 สาขา คาดปี 2020 มีสาขาทั้งหมด 100 สาขาทั้งสาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาเดี่ยวตามหัวเมืองจังหวัดใหญ่ ๆ โดยเป็นร้านมัลติแบรนด์ ที่มีผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก ปัจจุบันมีซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 แบรนด์
“ สินค้าในร้าน hej street มีแบรนด์ต่าง ๆ แล้ว 200 แบรนด์ ช่องทางขายมีรูปแบบ Off line ผ่านร้านมัลติแบรนด์ และช่องทาง On line รวมทั้งการขยายสาขาออกไปใน CLMV เพิ่มอินโดนีเซียอีก 1 ประเทศ ซึ่งบริษัทเห็นว่าตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ๆ ยังมีช่องว่างการเติบโตสูง เทรนการรักและดูแลสุขภาพ ยังเติบโตไปอีกใน 20 ปีข้างหน้า “ ผู้บริหารกล่าว