GC ปัง คว้าที่ 1 DJSI โลก 4 ปีซ้อน กลุ่มเคมีภัณฑ์ สร้างคุณค่าที่ดียั่งยืน

HoonSmart.com>>”พีทีที โกลบอล เคมิคอล” เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับสากลแห่งแรกของไทยที่ติดอันดับ 1 ของโลก 4 ปีซ้อนในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ดำเนินธุรกิจที่บูรณาการความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ครบทั้ง 3 ด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล-เศรษฐกิจ ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่ดี ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ร่วมสร้างคุณค่าที่ดีต่อโลกและดีอย่างยั่งยืน

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) หรือ GC  กล่าวว่า บริษัทฯขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากพันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือสนับสนุนและผลักดันให้ GC ได้รับการจัดอันดับที่ 1 ของโลก จาก DJSI 4 ปีซ้อน ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพราะความสำเร็จนี้ บริษัททำคนเดียวไม่ได้ ความยั่งยืนนั้นต้องเริ่มต้นจากความร่วมมือ ลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และขอส่งต่อความภาคภูมิใจนี้ให้ทุกคนได้ร่วมภูมิใจไปกับบริษัท โดยยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างแข็งขันต่อไป

การดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนนี้ ครอบคลุมครบทั้ง 3 ด้าน (ESG) ประกอบด้วย

ด้านสิ่งแวดล้อม (E – Environment) GC ลงมือทำและสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม ตามแนวทาง Circularity ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากร ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และทางเลือกที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้คู่ค้า ผู้มีส่วนได้เสีย และสังคมและ Decarbonization แนวทางการลด การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ อย่างเป็นรูปธรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ในปี 2564 – 2565 GC Group ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พลังงาน ช่วยลดการใช้พลังงาน เทียบเท่าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ 80,280 ตัน

โครงการ Solar Rooftop และ Solar Floating สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 480 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อวัน ลดปริมาณการใช้น้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ในกระบวนการผลิต 2.97 ล้านลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 5% ของการใช้น้ำทั้งหมด)

ต่อยอดขยายผล YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม ร่วมกับภาคีพันธมิตรนำขยะพลาสติกกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิง จำนวน 310 ตัน

โรงงาน ENVICCO ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ระดับ Food Grade มาตรฐานระดับโลก ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วในประเทศได้ถึง 60,000 ตัน/ปี เริ่มผลิต เมื่อก.ย.2565

การลงทุนในบริษัท allnex ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตสารเคลือบและสารเติมแต่งที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม

การปลูกและฟื้นฟูป่า สำหรับการชดเชยคาร์บอน

ด้านสังคม (S – Social) GC ร่วมเคียงข้างสังคมไทยเสมอมา โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่ผ่านมาในช่วงโควิด 19 ในช่วงน้ำท่วมและภัยแล้ง การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (Social Enterprise) สร้างรายได้ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมสนับสนุนสังคม และชุมชนให้มีความปลอดภัย มีการศึกษาที่ดี รวมถึงมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี

ในช่วงวิกฤตโควิด 19 GC ร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์และพลาสติก เทคโนโลยี และนวัตกรรมของบริษัทฯ ต่อยอดการช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤตได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึงทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการระบาด

วิกฤตน้ำท่วม  GC สนับสนุนเรือพายพลาสติก ให้กับจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวน 23 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที

วิกฤตภัยแล้ง GC ส่งมอบถังน้ำสะอาด InnoPlus ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ มูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ รวมถึงร่วมทำกิจกรรมกับชุมชนและลูกค้าของบริษัทฯ ให้แก่พื้นที่ประสบภัยแล้งในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

วิกฤตฝุ่น PM 2.5  GC ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 จำนวน 4 รุ่น เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่วิกฤตต่างๆ

ด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (G – Governance & Economic )

GC สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยรางวัล SET Sustainability Awards of Honor ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน ซึ่งสะท้อนภาพการดำเนินธุรกิจที่บูรณาการความยั่งยืนตามกรอบ ESG และยังได้รับรางวัลเกียรติยศ องค์กรโปร่งใส สะท้อนความมีคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต (NACC Integrity Awards) ด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดี และกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยง ที่ได้มาตรฐานทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน จึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจลงทุนอย่างยั่งยืน

สำหรับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) จัดทำขึ้นโดย S&P Global ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีการบริหารจัดการครบทุกมิติตามหลัก ESG สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย