HoonSmart.com>>” เพียร์ ฟอร์ ยู”(PEER) คาดหวังผลงาน Turnaround พลิกเป็นกำไรปี 68 ส่วนปีนี้มั่นใจจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ไตรมาส 3 ขายธุรกิจ Contact Center ออกไป 70% เหลือ 30% เปลี่ยนวิธีรับรู้ทางบัญชีตามส่วนแบ่งกำไร ปลุก P2P lending ลุ้นแบงก์ชาติอนุมัติให้ขยายหุ้นที่ใช้วางหลักประกันได้มากขึ้น ตั้งเป้าพอร์ต 500 ล้านบาท จากปัจจุบัน 100 ล้านบาท
นายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู (PEER) เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าผลดำเนินงานในปีนี้จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ขาดทุน 442.13 ล้านบาท และคาดหวังว่าจะ Turnaround พลิกมาเป็นกำไรได้ในปี 2568 หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างและเริ่มที่จะเข้าที่เข้าทาง
” ปี 2566 บริษัทได้ซื้อธุรกิจมาหลายอย่าง อยากทำให้แน่นก่อน เราพยายามปลุก P2P lending ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่ใกล้จะมีความคืบหน้าอีก ขั้นในการเปลี่ยนแปลง โดยเราจะขยายหุ้นในการวางหลักประกันให้กว้างขึ้น และคาดหวังว่าเร็ว ๆ นี้แบงก์ชาติน่าจะอนุญาตให้ทำได้ ตอนนี้เรารับหุ้นในกลุ่ม SET50 และ SET100 ซึ่งเป็นการจำกัดนักลงทุน หากสามารถขยายหุ้นที่ใช้วางเป็นหลักประกันได้มากขึ้น จะทำให้บริษัทสามารถขยายพอร์ตได้มากขึ้นด้วย ซึ่งเราแสดงให้แบงก์ชาติเห็นแล้วว่า สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ ธุรกิจนี้หวังว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปี2568 และจะ Return ในอีก 2 ปีข้างหน้า”
สำหรับไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ขายธุรกิจ และมีการเปลี่ยนวิธีการรับรู้ทางบัญชีด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทางบัญชีทั่วไป จะประกาศงบฯได้กลางเดือนพ.ย.นี้ รายได้หลัก มาจาก Happy Products and Services ทำธุรกิจเกี่ยวกับ TV Shopping ซึ่ง PEER ได้เข้าถือหุ้น 100% และ NestiFly ที่ทำเกี่ยวกับนวัตกรรมภาคการเงินที่ช่วยจับคู่ผู้ขอสินเชื่อและนักลงทุนเข้าด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มทางการเงิน ซึ่งทาง PEER ถือหุ้นอยู่ 91% ที่เหลือ 9% ผู้ถือหุ้นเดิมถืออยู่ ปัจจุบันพอร์ตรวมเฉลี่ย 100 ล้านบาท และปี 2568 ตั้งเป้าหมายพอร์ตรวมไว้ที่ 500 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจ Contact Center (Call Center) ยังสร้างผลกำไรได้อยู่ในไตรมาส 3 หลังจากที่ได้ขายหุ้น “วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล”(OTP) 5.6 ล้านหุ้น คิดเป็น 70% โดยให้” “สกาย ไอซีที”(SKY) ถือหุ้น 45% และ”เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส” (TKC) ถือหุ้น 25% ทำให้ไตรมาส 3 จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ Contact Center ตามส่วนแบ่งกำไร ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 30%
นายจิรายุ กล่าวว่า การลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฐานเศรษฐกิจ แคปพิตอล (TCAP) ซึ่งเป็นธุรกิจ Wealth Management มองเป็นส่วนเสริมให้กับธุรกิจ P2P lending ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้ามากกว่า เพราะใช้เงินลงทุนไม่สูง
ด้านราคาหุ้น PEER ปิดที่ 0.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ +3.23%เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2567
———————————————————————————————————————————————
