ดาวโจนส์ปิดลบ 28 จุด ดัชนี PPI ยังสูง รอข้อมูล CPI

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 28 จุด หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้น รายงานประชุมเฟดตอกย้ำจ้าหน้าที่ธนาคารยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผน จับตาข้อมูลดัชนี CPI ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.08 ดอลลาร์ กว่า 2% ด้าน “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ ตลาดพันธบัตรยังปั่นป่วน นักลงทุนเทขายพันธบัตรอังกฤษ จับตา BoE หลังยืนยันยุติการซื้อพันธบัตร 14 ต.ค.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ปิดที่ 29,210.85 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ 0.10% หลังการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นและรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตอกย้ำว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผน ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลดัชนี CPI

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,577.03 จุด ลดลง 11.81 จุด, -0.33%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,417.10 จุด ลดลง 9.09 จุด, -0.09%

ในช่วงแรกตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาต่ำกว่าระดับ 3.9% หลังการเผยแพร่รายงานการประชุม ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยและคงไว้ในระดับสูงจนกว่าเงินเฟ้อจะมีสัญญานชะลอตัว แต่มีความเห็นหนึ่งในรายงานทำให้ตลาดมีมุมมองในทางบวกว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือยุติการขึ้นดอกเบี้ยหากตลาดเงินผันผวนมากกว่านี้

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายชี้ว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกและสภาพแวดล้อมทางการเงินมีความไม่แน่นอนสูง การประเมินอัตราการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจำกัดความเสี่ยงที่จะผลกระทบรุนแรงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

แต่เมื่อมีการรายงานดัชนี PPI เดือนกันยายน ตลาดผันผวน โดยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 8.5% สูงกว่า 8.4% ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 7.2% ต่ำกว่า 7.3% ที่นักวิเคราะห์คาด

ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตและเฟดให้ความสำคัญยังอยู่ในระดับสูง จึงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อลงและคงดอกเบี้ยในระดับสูงไว้นานกว่าที่ตลาดคาด

นักลงทุนยังรอการรายงานดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้ออีกตัวในวันพฤหัสบดี ซึ่งไมค์ โลแกนจาก Morgan Stanley Global Investment กล่าวว่า หากดัชนีCPI ยังคงเพิ่มขึ้น ไม่ต้องแปลกใจที่นักลงทุนส่วนหนึ่งประเมินว่าการดึงเงินเฟ้อลงจะใช้เวลาอีกนาน

นักลงทุนยังรอการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะเริ่มธนาคารรายใหญ่ในวันศุกร์นี้

หุ้นโมเดอร์นาบวก 9% หลังบริษัทและ Merck ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาและจำหน่ายวัคซีนป้องกันมะเร็ง

หุ้นเป๊ปซี่โค เพิ่มขึ้น 4.2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรประจำปี

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นักลงทุนยังกังวลต่อแนวโน้มการเศรษฐกิจโลกและการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของธนาคารกลางหลายประเทศ ขณะที่รอการรายงานดัชนี CPI สหรัฐฯในวันพฤหัสบดี

ตลาดพันธบัตรยังปั่นป่วน จากการเทขายพันธบัตรอังกฤษหรือ gilt ส่งผลขยายไปทั่วยุโรป ขณะที่นักลงทุนจับตาก้าวต่อไปของ ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) หลังยืนยันว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรในวันที่ 14 ตุลาคมนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาที่ 2.3880% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.813% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอังกฤษเพิ่มขึ้นมาที่4.533% แลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ -30 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.963%

เงินปอนด์ฟื้นตัวมาที่ 1.10 ต่อดอลลาร์ หลังการสื่อสารที่สับสนของ BoE โดยไฟแนนเชี่ยล ไทมส์รายงานวา BoT ส่งสัญญาณแบบไม่เป็นทางการที่จะขยายการรับซื้อพันธบัตรออกไป ซึ่งขัดแย้งกับที่นายแอนดรูว์ ไบเลย์ ผู้ว่าการ BoE เตือนกองทุนบำเหน็จบำนาญให้ปรับสถานะให้เสร็จสิ้นใน 3 ก่อนยุติการรับซื้อ

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวบริษัทรายตัว โดย ฟิลิปส์ ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์รายใหญ่เนเธอร์แลนด์เตือนว่าภาวะเศรษฐกิจมหภาคแย่ลง และปัญหาการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานยืดเยื้อกว่าที่คาด หุ้นฟิลิปส์ลดลง 7.6%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 385.88 จุด ลดลง 2.07 จุด, -0.53%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,826.15 จุด ลดลง 59.08 จุด, -0.86%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,818.47 จุด ลดลง 14.73 จุด, -0.25%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,172.26 จุด ลดลง 47.99 จุด, -0.39%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 87.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 92.45ดอลลาร์ต่อบาร์เรล