ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป คาดรายได้ปีนี้โตมากกว่าปกติ เริ่มเก็บเกี่ยวเงินลงทุนโครงการใหญ่ แต่ละธุรกิจได้รับผลตอบรับที่ดี ส่วนการไปโรดโชว์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง กองทุนให้ความสนใจ ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งขึ้น จากฐานเดิมโรงพยาบาล ขยายตลาดใหม่ ๆ มีโอกาสเติบโตสูง ในปี 2562 เป็นต้นไป
นายธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป(THG) เปิดเผยว่า ในปี 2561 คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10% เนื่องจากในครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า จะเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนใหญ่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ละโครงการจะมีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม(EBITDA)ในปี 2562 เป็นต้นไป
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากการลงทุนตามปกติในธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัย Jin Wellbein จำนวน 494 ยูนิต ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 164 ยูนิต เข้ามาเดือนละ 20 ยูนิต คาดว่าจนถึงสิ้นจะมีทั้งสิ้น 200 ยูนิต ในราคา 4-6 ล้านบาท บริษัทพร้อมโอนให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนธ.ค.นี้เป็นต้นไป แต่จะโอนได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้า
นอกจากนั้นบริษัทจะรับรู้รายได้จากศูนย์การแพทย์ ธนบุรี บำรุงเมือง เมดิคอล เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง จะเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกก่อน 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ตรวจเช็คสุขภาพ ศูนย์ทันตกรรมและศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (IVF) จำนวนทั้งหมด 150 ยูนิต ในเดือนพ.ย.นี้ คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในปี 2562
ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยและศูนย์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยภายใต้ชื่อ ‘ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ’คาดเริ่มเปิดเฟสแรกจำนวน 412 ยูนิต จะเปิดจองในเดือน ธ.ค.2561-ม.ค.2562 และโรงพยาบาล ธนบุรี ทุ่งสง จำนวน 200 เตียง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2562
นายธนาธิป กล่าวว่า โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ได้เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้ว มีผู้มาใช้บริการค่อนข้างสูงมาก บริษัทจะรับรู้รายได้สัดส่วนการถือหุ้นที่ 40%
รองประธานกรรมการ กล่าวว่า บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ สนใจในกลุ่มประเทศ CLMV คล้ายกับธุรกิจค้าปลีกที่ออกไปลงทุนใน เวียดนานม เมียนมา และอาเซียน
ปัจจุบันยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เข้ามาเจรจาร่วมทุนในธุรกิจธุรกิจที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัย เนื่องจากมองว่าบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจดังกล่าวเป็นอย่างดี
ส่วนการเดินทางไปโรด์โชว์ที่ประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง ในช่วงที่ผ่านมาได้กระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกองทุน ซึ่งรู้จักธุรกิจแฮลแคร์ของเมืองไทย เป็นอย่างดีและมีศักภาพสูง นอกจากนี้บริษัทฯยังมีฐานธุรกิจเดิมคือโรงพยาบาล และยังมีการสร้างตลาดใหม่ๆ ทำให้ THG กลายเป็นหุ้นเติบโตสูงได้
“ที่มาเลเซีย เราเพิ่งไปครั้งแรก ส่วน สิงคโปร์และฮ่องกง เราเคยไปแล้วครึ่งหนึ่ง คราวนี้มาถามเรื่องความคืบหน้าของโครงการลงทุนต่างๆ ส่วนจะเข้ามาลงทุนในหุ้น THG หรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่เค้าสนใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ปัจจุบัน ธนบุรี เฮลท์แคร์ฯ มีกองทุนต่างๆ ถือหุ้นไม่ถึง 10% ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย”นายธนาธิปกล่าว