ดาวโจนส์ปิดทรุด 630 จุด อัตราว่างงานลดลง หวั่นเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทรุด ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 630 จุด ดัชนี S&P500 ลบกว่า 2.80% Nasdaq -3.80% หลังรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราว่างงานลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 4.7% ปิด 92.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนเบรนท์ขึ้นแตะ 97.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ แรงขายกลุ่มเทคโนโลยีนำ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 7 ตุลาคม2565 ปิดที่ 29,296.79 จุด ร่วงลง 630.15 จุด หรือ 2.11% ลดลงต่ออีกวันหลังการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อัตราว่างงานยังลดลงต่อเนื่อง ตลาดแรงงานยังตึงตัว ทำให้กังวลมากขึ้นว่าธนาคารกลาง(เฟด)ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,639.66 จุด ลดลง 104.86 จุด, -2.80%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,652.40 จุด ลดลง 420.91 จุด, -3.80%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.99% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.51% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.73%

กระทรวงแรงงานรายงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม แต่สูงกว่า 275,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาดจากการสำรวจของดาวโจนส์ ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% จาก 3.7% ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้เฟดพยายามชะลอเศรษฐกิจด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ

ปีเตอร์ บุ๊ควาร์ จาก Bleakley Financial จากข้อมูลที่ค่อนข้างเป็นไปตามคาดผวมกับข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่อยู่ในระดับต่ำ อัตราการว่างงานที่ลดลง ก็จะทำให้เฟดเร่งเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

อัตราการว่างงานที่ลดลงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินเพิ่มขึ้นไปที่ 4.316%

รอน เทมเปิลจาก Lazard Asset Management กล่าวว่า เป้าหมายของเฟดที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวแบบ soft landing จากการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ดูแล้วมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง เศรษฐกิจยังร้อนแรงเกินกว่าที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ

ไมค์ โลเวนการ์ต จาก Global Investment Office ของ Morgan Stanleyกล่าวว่า กว่าเฟดจะประชุมอีกครั้งก็เป็นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งระหว่างนั้นจะมีข้อมูลออกมาอีกมาก รวมทั้งเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เฟดก็ออกให้ความเห็นย้ำว่ายังไม่มีแผนที่จะผ่อนคลายการขึ้นดอกเบี้ย โดยนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยังต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเพราะเงินเฟ้อยังสูงและส่งสัญญาฯวาดอกเบี้ยอาจจะขึ้นไปแตะ 4.5-4.75% ในฤดูใบไม้ผลิปี 2023 หรือราวเดือนมีนาคม

หุ้น AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ลดลง 13.9% หลังคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า เนื่องจากความต้องการชิปชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

หุ้นลีวายส์ สเตร้าสส์ลดลง 12% หลังปรับลดคาดการณ์ผลการดำเนินงาน เป็นผลจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ความต้องการของผู้บริโภคที่ชะลอตัว

หุ้นเครดิตสวิสเพิ่มขึ้น 6% หลังประกาศซื้อตราสารหนี้คืนรวม 3 พันล้านดอลลาร์และขายโรงแรมซาวอยในซูริค รวมทั้งคาดจะประกาศแผนกลยุทธ์ในเดือนนี้

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 4.2% หลังการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง ทำให้วิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ยังจับตาการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมของเยอรมนีลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่า 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปลดลง โดยหุ้น Infineon และหุ้นBE Semiconductor ลดลง 3%- 7% หลงซัมซุงอิเล็กทรอนิคส์ในเกาหลีใต้ และ AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ส่งสัญญานว่าตลาดชิปอาจจะแย่กว่าที่คาด

หุ้นอาดิดาสของเยอรมนี ลดลง 5.2% หลังบริษัททบทวนการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ คานเย เวสต์ นักร้องเพลงแรปและนักออกแบบแฟชั่นของสหรัฐ

กลุ่มน้ำมันและก๊าซเป็นกลุ่มเดียวที่ปิดบวกเพิ่มขึ้น 1.1%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 391.67 จุด ลดลง 4.68 จุด, -1.18%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,991.09 จุด ลดลง 6.18 จุด, -0.09%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,866.94 จุด ลดลง 69.48 จุด, -1.17%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,273.00 จุด ลดลง 197.78 จุด, -1.59%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 4.19 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 92.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 97.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล