บลจ.ทิสโก้จับจังหวะหุ้นไทยหลุด 1,600 ออกทริกเกอร์ฟันด์ขาย

HoonSmart.com>>”บลจ.ทิสโก้” จับจังหวะหุ้นไทยปรับฐาน ดัชนีหลุด 1,600 จุด ออกกองทุน “ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#7” เก็บหุ้น ตั้งเป้าผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน รับกระแสเงินกองทุน RMF-SSF ไหลเข้า ด้านเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตสดใส เปิดขาย IPO 4-6 ต.ค.65 ด้าน “มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช” เผยปีนี้บลจ.ออกทริกเกอร์แล้ว 17 กอง เข้าเป้า 1 กอง ขณะที่ปี 63-64 กองทุนผลงานยังไม่ถึงเป้าและปิดกองทุนตามเงื่อนไข 26 กอง มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของทุกปีเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมักจะมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ไหลเข้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง บวกกับการเมืองไทยที่กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งภายในกลางปีหน้า ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดี โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าเศรษฐกิจปี 2565 จะเติบโต 3.3% และปี 2566 จะเติบโต 3.8% เช่นเดียวกับธนาคารโลก (World Bank) มีมุมมองดีขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.1% จากเดิมที่คาดว่าเติบโต 2.9%

ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสสร้างกำไรจากดัชนีหุ้นไทยที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 5 เดือนนี้ บลจ.ทิสโก้จึงจับจังหวะเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#7 (TEQT5M7) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วยภายในระยะเวลา 5 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 4-6 ตุลาคม 2565 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

“ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานลงมาในระดับใกล้เคียง 1,600 จุด อย่างไรก็ดี บลจ.ทิสโก้เชื่อว่าการย่อตัวลงนี้เป็นโอกาสเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อีกครั้ง เนื่องจาก คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงมีทิศทางการฟื้นตัวต่อเนื่อง จากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไหลเข้าประเทศไทยมากกว่าเดือนละล้านคน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่หลายประเทศเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวออกนอกประเทศโดยที่ไม่ต้องกักตัวเมื่อกลับเข้าประเทศ ขณะที่ประเทศจีนมีโอกาสเริ่มเปิดประเทศภายในกลางปีหน้า ประกอบกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่รุนแรงเหมือนในสหรัฐฯ และยุโรป และมองว่าเงินเฟ้อที่จะเริ่มชะลอตัวเมื่อเวลาผ่านไป และเศรษฐกิจคาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 3-4% ในปีนี้ถึงปีหน้า” นายสาห์รัชกล่าว

นอกจากนี้ ในแง่ของมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นไทย ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ณ วันที่ 27 กันยายนซื้อขายในระดับอัตราราคาปิดต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือน ที่ 14.96 เท่า ถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ส่วนคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นปี 2565/2566 อยู่ที่ 5.5% และยังมีโอกาสที่กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยจะถูกปรับขึ้นอีก” นายสาห์รัชกล่าว

พิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุน TEQT5M7 ตั้งแต่วันที่ 4-6 ตุลาคม 2565 ยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) กองทุนหุ้นไทย ระดับ 5 ดาว* มูลค่า 100 บาท สูงสุด 5,000 บาท (* ข้อมูลการจัดอันดับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 สามารถดูข้อมูลการจัดอันดับได้ที่ www.morningstarthailand.com)

ด้านบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรงมักจะเห็นการออกกองทุนทริกเกอร์ ซึ่งเป็นการลงทุนลักษณะจับจังหวะการลงทุน โดยในปีนี้ก็ยังมีการทยอยเปิดขายกองทุนทริกเกอร์อย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนทริกเกอร์ที่เปิดในปีนี้มีจำนวน 17 กองทุน ในจำนวนนี้มีกองทุนที่ปิดตามเงื่อนไขแล้ว 1 กองทุนคือ TISCO Thai Equity Trigger 5M 6 โดยเป็นการลงทุนในประเทศไทย และเปิดขายในช่วงกลางไตรมาสที่ 2 จากการปิดกองทุนตามเงื่อนไขทำให้ปัจจุบันคงเหลือมูลค่ากองทุนทริกเกอร์ที่เปิดปีนี้ราว 4.9 พันล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ย.2565)

ขณะเดียวกันยังมีกองทุนที่เปิดขายในช่วงปี 2563-2564 ที่ยังไม่ปิดกองทุนตามเงื่อนไขรวม 26 กองทุน รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้โดยรวมมีมูลค่ากองทุนทริกเกอร์ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมามีมูลค่ารวม 2.0 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่ากองทุนทริกเกอร์ส่วนใหญ่เป็นของกองทุนที่เปิดในปี 2564 และกองทุนจากปี 2563 เพียงเล็กน้อย

ด้านการเปิดกองทุนทริกเกอร์ที่ลงทุนต่างประเทศค่อนข้างชะลอลงในปีนี้ ต่างกับปีที่แล้วที่มีการเปิดกองทุนทริกเกอร์ต่างประเทศกันค่อนข้างคึกคัก ซึ่งเป็นผลจากในปีนี้การลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดหุ้นมีทิศทางเป็นขาลง ประกอบกับมีกองทุนที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขปิดกองทุนจากปีที่แล้ว ในขณะที่หุ้นไทยแม้จะยังผันผวนแต่ก็มีการฟื้นตัวขึ้นมาได้ในบางช่วง จึงทำให้มีการจับจังหวะการลงทุนในช่วงตลาดปรับขึ้น-ลงได้

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ระบุว่า นักลงทุนควรทราบถึงความเสี่ยงจากการลงทุนที่มีการกำหนดเงื่อนไขถือครองตามแต่ละกองทุน หากตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องก็อาจทำให้มีผลขาดทุนจำนวนมากได้ นักลงทุนจึงควรคำนึงถึงสภาพคล่องส่วนบุคคลก่อนการลงทุนทริกเกอร์ฟันด์ เพื่อให้พิจารณาจำนวนเงินที่นำไปลงทุนได้อย่างเหมาะสม