หุ้นปิดลบ 5.14 จุด จับตาผลประชุมเฟดคืนนี้ ต่างชาติขาย 1 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 5.14 จุด ตามตลาดต่างประเทศในช่วงรอผลประชุมเฟดคืนนี้ และ” ปูติน” ผู้นำรัสเซีย เตรีรยมยกระดับการทำสงครามในยูเครน ส่งราคาน้ำมันดีดขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน ขณะที่กลุ่มอื่นเจอแรงขายออกมา นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,048.57 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,435.01 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งตัว แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 22 ก.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,633.45 จุด ลดลง 5.14 จุด หรือ -0.31% มูลค่าซื้อขาย 70,140.73 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,642.82 จุด ต่ำสุด 1,633.41 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,002.31 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 384.13 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,435.01 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,048.57 ล้านบาท

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวลง ในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75%

ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่ม ICT ที่มีอัพไซด์หลังมีพัฒนาการเชิงบวกจากสำนักงานกฤษฎีกาลงความเห็นให้ดีลควบกิจการ TRUE และ DTAC เข้าข่ายประกาศปี 2561 หนุนโอกาสเกิดการควบรวมมีมากขึ้น และในช่วงบ่ายตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ขึ้นมาตอบรับราคาน้ำมันฟิวเจอร์สดีดตัวขึ้น หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เตรีรยมยกระดับการทำสงครามในยูเครน นอกจากนี้ตลาดยังเผชิญแรงขายจากหุ้นในกลุ่มอื่น อย่างหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, ค้าปลีก เป็นต้น ทำให้ดัชนีฯมีความผันวน

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 22 ก.ย.2565 ตลาดคงจะแกว่งตัว โดยมีแนวรับ 1,630 จุด แนวต้าน 1,650 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 174.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ +2.95% มูลค่าซื้อขาย 4,604.28 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.31% มูลค่าซื้อขาย 3,253.90 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 328.00 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ -2.67% มูลค่าซื้อขาย 3,033.44 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +2.06% มูลค่าซื้อขาย 2,804.52 ล้านบาท
EA ปิดที่ 89.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -2.20% มูลค่าซื้อขาย 2,348.46 ล้านบาท