HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,644.19 จุด เพิ่มขึ้น 12.62 จุด คล้ายตลาดภูมิภาค ในช่วงรอผลประชุมเฟด เล็งขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด, แบตเตอรี่สำหรับรถ EV, ท่องเที่ยว และกลุ่มธนาคารขึ้นมาตอบรับดอกเบี้ยขาขึ้น ท่ามกลางเงินบาทที่ยังอ่อนค่า แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งไซด์เวย์ แนวรับ 1,630-1,620 แนวต้าน 1,650 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 20 ก.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,644.19 จุด เพิ่มขึ้น 12.62 จุด หรือ +0.77% มูลค่าการซื้อขาย 33,432.31 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,645.15 จุด และต่ำสุด 1,638.55 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้น ก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% แต่ต้องรอดูการส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยต่อไปด้วยจะเป็นอย่างไร อีกทั้งทางจีนได้มีการอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานสะอาด, แบตเตอรี่สำหรับรถ EV, ท่องเที่ยว และกลุ่มธนาคารขึ้นมาตอบรับดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ดี เงินสกุลอื่นในภูมิภาค และเงินบาท ยังคงอ่อนค่า เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์หลังจากที่ปรับขึ้นไปมากในช่วงเช้า โดยมีแนวรับ 1,630-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL อยู่ที่ 58.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.43% มูลค่าซื้อขาย 2,141.65 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 618.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,827.17 ล้านบาท
TU อยู่ที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +4.79% มูลค่าซื้อขาย 888.03 ล้านบาท
EA อยู่ที่ 90.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +2.84% มูลค่าซื้อขาย 836.19 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 108.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.89% มูลค่าซื้อขาย 813.26 ล้านบาท