“บล.พาย” คาดหุ้นสัปดาห์นี้กรอบ 1,600 – 1,640 จุด เน้นลดพอร์ตลงทุน

HoonSmart.com>> “บล.พาย” คาดหุ้นต้นสัปดาห์นี้ร่วงแรง ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังประธานเฟดยังกังวลเงินเฟ้อ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย กดดันตลาดหุ้น วางกรอบสัปดาห์นี้ 1,600 – 1,640 จุด กลยุทธ์ยังคงเน้นลดพอร์ตลงทุน ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเน้นกลุ่ม Defensive Stock หุ้นเด่น TISCO-BCH

บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย (Pi) ประเมินต้นสัปดาห์ SET INDEX จะปรับฐานลงรับแรงกดดันเชิงลบจากตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์และเชื่อว่า Upside ตลาดหุ้นจะเริ่มจำกัดเนื่องจากประเมินว่านักลงทุนจะระมัดระวังมากขึ้นกับการเข้าซื้อหุ้นเพราะความกังวลกับดอกเบี้ยจะเริ่มมากขึ้นและยังประเมินได้ยากว่าดอกเบี้ยจะสิ้นสุดขาขึ้นเมื่อใด นอกจากนี้ด้วยการที่ประธาน FED แถลงว่าความเจ็บปวดย่อมเกิดขึ้นหากจะควบคุมเงินเฟ้อยิ่งเป็นการสะท้อนว่าผลประกอบการฯหลังจากนี้อาจเผชิญความเสี่ยงด้านขาลงถือเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโดยตรง

ทั้งนี้ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์ปรับฐานแรง 3% หลังประธาน FED ออกมาแถลงในการประชุม Jackson Hole ด้วยท่าทียังคงแสดงความกังวลกับเงินเฟ้อสหรัฐฯพร้อมระบุเป้าหมายเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 2% แต่ก็ยอมรับว่าการนำเงินเฟ้อลงย่อมสร้างความเจ็บปวดแก่ภาวะเศรษฐกิจ สัญญาณดังกล่าวสอดคล้องกับที่เราประเมินมาตลอดว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแต่ยังการลดลงยังเป็นไปได้ยาก ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.7% รับแรงหนุนจากการที่ซาอุฯส่งสัญญาณจะลดกำลังการผลิต

ส่วนปัจจัยในสัปดาห์นี้ยังเน้นไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐจาก CB Bloomberg ประเมินที่ 97.4 และตำแหน่งงานเปิดใหม่ที่ 10.4 ล้านตำแหน่ง หากออกมาร้อนแรงตลาดจะยิ่งเพิ่มความกังวลกับเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น (2) ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (PMI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg ประเมินที่ 52.1 (3) ภาคแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.95 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.5% พร้อมกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ 0.4%MoM หากตัวเลขออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและกดดันตลาดหุ้น

สำหรับความเห็นล่าสุดของ CME FED Watch ระบุว่า 61% ให้น้ำหนักที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 40% จากช่วงกลางเดือน ส.ค. นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาช่วงเวลาดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงก็มักตามมาด้วยเศรษฐกิจถดถอย

บล.พาย มองเชิงกลยุทธ์ยังเน้นลดพอร์ตเช่นเดิมเพราะความกังวลเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และเศรษฐกิจถดถอยยังมิเลือนหายไป ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเน้นไปที่ Defensive Stock อาทิ โรงพยาบาลและบำรุงสุขภาพ (BCH, CHG, MEGA) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH) หุ้นปันผลสูง (TISCO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ประเมินกรอบทั้งสัปดาห์ 1,600 – 1,640 จุด

สำหรับหุ้นแนะนำ TISCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 106.00 บาท) แม้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจฉุดอุปสงค์สำหรับรถยนต์มือหนึ่งลง แต่คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะอยู่ในแดนบวกที่ 3% YoY ในปี 2022 หนุนจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อรถมือสอง และสินเชื่อออโต้แคชที่สูงขึ้น ที่ล้วนได้อานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น

หุ้น BCH (ถือ / ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท) คาดกลุ่มประกันสังคมจะยังแข็งแกร่งใน 2H22 และหลังจากนั้น หนุนจากฐานผู้ประกันตนจำนวนมากที่ 9.96 แสนราย และการเพิ่มงบของสำนักงานประกันสังคม