PTG ปลื้ม !! ยอดขายน้ำมันนิวไฮ ดันกำไร 600 ล้านบ.

PTG ไตรมาส 2/65 ยอดขายน้ำมันทำสถิติสูงสุด 1,367 ล้านลิตร ดันกำไร 600 ล้านบาท พุ่ง 20% เล็งทุ่มงบทั้งปี 3-4 พันล้าน เดินหน้าขยายธุรกิจเพิ่ม

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี  ( PTG )  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในงวดไตรมาส 2/2565 มีรายได้จากการขายและการบริการ จำนวน 46,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.69% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 497.72 ล้านบาท

“หลังจากภาครัฐประกาศเปิดประเทศเต็มระบบ  ส่งผลให้ปริมาณขายน้ำมันกว่า 1,367 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์  เป็นการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ 96.2% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด หรือ 1,315 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 7.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศที่เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน”

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการบริการ ในไตรมาส 2/2565 จำนวน 46,307 ล้านบาท  เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจน้ำมัน เพิ่มขึ้น 37.7% และธุรกิจ Non-Oil ยังคงมีอัตราเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้ 2,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.1%

“กำไรขั้นต้นจาก ธุรกิจ Non-Oil แบ่งเป็นธุรกิจแก๊ส LPG ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (ATL) 7.6% ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 2.5% และธุรกิจอื่น ๆ 5.9% ได้แก่ร้านสะดวกซื้อ Max Mart ธุรกิจน้ำมันเครื่อง และธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs ”

นายพิทักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ผลการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรก 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 85,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.0 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  แบ่งเป็น รายได้จากการขายและบริการในส่วนของธุรกิจน้ำมัน เพิ่มขึ้น 28.9%  ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจน้ำมัน 95.3% และรายได้จากธุรกิจ Non-Oil

ส่วนของธุรกิจ LPG ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจการให้บริการพื้นที่เชิงพาณิชย์ และธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้น 57.7% จากการขยายสาขาในธุรกิจ Non-Oil และการเติมเต็มการให้บริการที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน  มีจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil ทั้งสิ้น 1,317 สาขา เพิ่มขึ้น 331 สาขา หรือ 33.6%

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ วางแผนใช้งบลงทุน ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งการขยายสาขาและจำนวน Touchpoint ทั้งหมด 3,582 สาขา แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมัน จำนวน 2,010 สาขา, ธุรกิจ Non-Oil จำนวน 1,572 สาขา, สถานี LPG และ Mix จำนวน 252 สาขา, F&B, CVS และ Services จำนวน 1,320 สาขา เป็นต้น

“บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก ประมาณ 6 – 10% และอัตราการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายแก๊ส LPG ประมาณ 50 – 60% รวมถึงอัตราการเติบโตของยอดขาย Non-Oil ประมาณ 80 – 90% และอัตราการเติบโตของ EBITDA 15 – 20% จากครึ่งปีแรกบริษัทฯ มี EBITDA อยู่ที่ 3,092 ล้าน จึงเชื่อว่า ภายในปีนี้ บริษัทฯ จะมีรายได้และกำไรเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายพิทักษ์ กล่าว