PTTEP ร่วงตามราคาน้ำมัน บริษัทยันปริมาณขายเพิ่ม Q3/65

HoonSmart.com>>หุ้น PTTEP ดิ่งนำกลุ่มพลังงาน รับ Sentiment ลบ จากราคาน้ำมันร่วงแรง แนวโน้มลงต่อเนื่อง เจอสต็อกน้ำมันสหรัฐฯมากกว่าคาด กังวลเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัว โบรกฯแนะ”หลีกเลี่ยง”หุ้นกลุ่มพลังงาน ด้านปตท.สผ.คาดปริมาณขายปิโตรเลียม Q3/65 เฉลี่ย 4.81 แสนบาร์เรล/วัน โตตามดีมานด์ฟื้น

วันที่ 4 ส.ค.2565 นักลงทุนพร้อมใจกันเทกระจาดหุ้น บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ทุบราคาร่วงลงไปต่ำสุด 154 บาท ก่อนฟื้นเล็กน้อยมาปิดที่ 154.50 บาท ลดลง 7.00 บาท -4.33 มูลค่าการซื้อขายมากถึง 6,477 ล้านบาท หลังจากราคาน้ำมันดิบไหลลงต่อเนื่องจ่อหลุด 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกันมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และบริษัทที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานปรับตัวลง นำโดย บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ปิดที่ราคาสูงสุด 54.75 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ+5.80% มูลค่าซื้อขาย 1,443 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย มองราคาพลังงานล่าสุด โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ อิงตลาดเบรนท์ส่งมอบเดือน ต.ค.(-3.7%DoD) ปิดที่ 96.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยถูกกดดันหลัก ๆ จาก API รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่ได้คาดคิดกว่า 4 ล้านบาร์เรล แม้ผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.ย. สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะคงกำลังการผลิตไว้เท่ากับเดือน ส.ค.

ฝ่ายวิจัยจึงประเมินราคาน้ำมันดิบจะยังผันผวนในระดับสูงในช่วง 90-120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นผลจากกำลังการผลิตสำรองที่จำกัด และความไม่แน่นอนของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว โดยรวมสรุปราคาน้ำมันที่ปรับลงแรงเมื่อคืนเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นน้ำมัน PTT, PTTEP

บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า แม้มีปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบจากการเพิ่มกำลังการผลิตที่น้อยกว่าคาดของกลุ่มโอเปกพลัส แต่ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่สูงกว่าคาด บวกกับความกังวลเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ และความต้องการการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง และมีแนวโน้มจะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แนะนำ”หลีกเลี่ยง”หุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT,PTTEP,TOP เป็นต้น

ด้านนายธนัตถ์ ธำรงศักดิ์สุวิทย์ ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ระดับ 481,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 465,459 บาร์เรลต่อวัน รวมครึ่งปีหลังปริมาณการขายและราคาขายปิโตรเลียมจะสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ปริมาณการขายเฉลี่ยทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 465,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากความต้องการฟื้นตัว และมีกำลังการผลิตของโครงการใหม่ที่เริ่มรับรู้เข้ามา เช่น โครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ), โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ และโครงการมาเลเซีย แปลงเอช และโครงการโอมาน แปลง 61 ที่รับรู้ยอดขายเต็มปีเป็นปีแรก

ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 3 และทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 6.4 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู จะเพิ่มขึ้นมาทำระดับสูงสุดในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นรอบการปรับราคาของสัญญาในอ่าวไทยในหลายโครงการ ซึ่งได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก PTTEP คาดว่าจะเคลื่อนไหวในช่วง 90-105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง อาจแตะระดับ 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มีปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังจากยกเลิกการคว่ำบาตรต่อประเทศอิหร่าน และการปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของหลายประเทศ เป็นต้น

ส่วนต้นทุนเฉลี่ยคาดมีแนวโน้มสูงขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ หรืออยู่ที่ประมาณ 29-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากรายจ่ายค่าภาคหลวงต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นตามราคาขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 ที่บริษัทเพิ่งเข้าเป็นผู้ดำเนินการตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตในไตรมาส 2  บริษัทตั้งงบรายจ่ายและการลงทุนรวมในปีนี้ไว้ประมาณ 5,600 ล้านดอลลาร์  สำหรับการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ และค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจการอีกราว 2,600 ล้านดอลลาร์

สำหรับเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซธรรมชาติของโครงการซอติก้า ประเทศเมียนมา รั่วไหล จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยจากการระเบิดหรือเพลิงไหม้ ซึ่งจะหยุดการส่งก๊าซฯเข้าไทยเป็นการชั่วคราวก่อน คิดเป็นตัวเลขประมาณ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยเบื้องต้นคาดใช้เวลาในการซ่อมแซมรอยรั่วดังกล่าวไม่เกิน 2 สัปดาห์
และความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้า Gas-to-Power ขนาด 600 เมกะวัตต์ (MW) ในเมียนมา บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมงาน แต่ยอมรับว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันอาจทำให้แผนงานชะลอไปบ้าง

อ่านประกอบ

PTTEP ร่วง 4.33% รับ Sentiment ลบจากราคาน้ำมันร่วงแรง