DELTA เทรด 2 วัน พุ่ง 33% ธุรกิจสดใสใน H2/65 บาทอ่อนค่าหนุน

HoonSmart.com>>หุ้น DELTA ขยับขึ้นต่อ เทรด 2 วัน ราคาพุ่ง 33.02% โบรกฯปรับประมาณการกำไรปี 65-66 เพิ่มขึ้น พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ขานรับกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.3 พันล้านบาท (+158% y-o-y,+53% q-o-q) สืบเนื่องจากรายได้จากการขายทำได้สูงมาก แนวโน้มธุรกิจในอนาคตสดใส อุปสงค์ในตัวสินค้าแข็งแกร่งมาก-ได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ยังผลให้รายได้ในสกุลบาท และอัตรากำไรไปได้ดีในครึ่งหลังปี 65

เมื่อเวลา 10.18 น.หุ้น DELTA บวก 4.22% มาอยู่ที่ 494.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,213.34 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 หุ้น DELTA ปิดที่ 474.00 บาท เพิ่มขึ้น 106.00 บาท หรือ +28.80%

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) เป็น “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ 420.00 บาท (เดิม 340.00 บาท) ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 65 ที่ระดับ 37 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย P/E สำหรับการซื้อขายในอดีต โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ออกมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.3 พันล้านบาท (+158% y-o-y,+53% q-o-q) สืบเนื่องจากรายได้จากการขายทำได้สูงมาก ในสกุลบาทเพิ่มถึง 36% y-o-y รวมทั้งอัตรากำไรก็เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับ 25.1% เมื่อผนวกกับการได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่ามาก ในระหว่างไตรมาส บันทึกกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 346 ล้านบาทในไตรมาส 2/65

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในอนาคตก็มีความสดใส คือ อุปสงค์ในตัวสินค้าของบริษัทมีความแข็งแกร่งมาก และยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้รายได้ในสกุลบาท และอัตรากำไรไปได้ดีทีเดียวในครึ่งหลังปี 65

พร้อมปรับเพิ่มประมาณการอย่างสูง เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ที่ออกมาแข็งแกร่ง จึงได้ปรับประมาณการให้เพิ่มขึ้น คือ ปี 65 และ 66 ที่ +32%, +22% ตามลำดับ ยังผลให้เมื่อเปรียบเทียบ y-o-y เป็น +117%, +9% ตามลำดับ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

แนวโน้มรายได้เพิ่มต่อเนื่อง เพราะสายการผลิตกลุ่ม DELTA ย้ายจากจีนมาไทย เมื่อมีสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ สถานการณ์ในปัจจุบัฟื้นตัวดีขึ้น ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ การเติบโตในระยะยาวจะล้อไปกับความก้าวหน้าของรถยนต์ EV เพราะบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิต Power Supply ชั้นนำสำหรับรถยนต์ EV ทั้งในภูมิภาคยุโรป และอเมริการเหนือ สัดส่วนรายได้จากสินค้านี้เพิ่มจาก 6% ในปี 59 มาเป็น 15% ในปี 64 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ในส่วนนี้เป็น 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี ข้างหน้านี้