HoonSmart.com>> บลจ.วรรณ มองเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,700-1,750 จุด จังหวะเปิดหนุนเมืองการท่องเที่ยวฟื้น สะท้อนจากตัวเลขค้าปลีกที่มีแนวโน้มดีขึ้น พร้อมเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ท็อป ซีเล็คชั่น 5MC (ONE-TOP5MC) ทริกเกอร์หุ้นไทย ตั้งเป้าผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน เลิกกองทุนเมื่อระดับ NAV แตะผ่านระดับ 10.53 บาทต่อหน่วย เปิดขาย 20-28 มิ.ย.นี้
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าดัชนีปี 2565 มีโอกาสแตะระดับ 1,700-1,750จุด หรือมีระดับ upside ราว 8-12% จากระดับดัชนีในปัจจุบันที่ 1,550-1,650 จุด จากปัจจัยหลักในแง่ของปัจจัยพื้นฐานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นจากสัญชาติอื่นนอกจากจีน อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐฯ เกาหลีใต้ อังกฤษ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีนโยบายกลับมาเปิดประเทศเช่นเดียวกันและกำลังซื้อสูง ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน
“หากพิจารณาการฟื้นตัวในปีนี้จะพบว่าการท่องเที่ยวของไทยอยู่ในช่วงเพิ่งฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนการระบาด สะท้อนถึงโอกาสของการพลิกฟื้นที่โดดเด่นในระยะข้างหน้า หนุนโดยนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อินเดีย และยุโรป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่กลับเข้ามาในประเทศไทยในปีนี้ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวได้ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา โดยมีอัตราการฟื้นตัวในช่วง 4 เดือนแรกของปี (ม.ค.-เม.ย.65) ที่ราว 9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนการระบาด สะท้อนว่าการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังคงอยู่ในระยะต้น และยังมีโอกาสในการขยายตัวอีกมากในระยะข้างหน้าจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ การเดินหน้าเปิดประเทศยังช่วยหนุนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติให้มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลในช่วงครึ่งหลังของปี” นายพจน์ กล่าว
จากปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทเชื่อมั่นในโอกาสการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย โดยกิจกรรมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวหนุนการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มค้าปลีก คาดหุ้นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ มี price momentum ที่ดี เมื่อเทียบราคาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) และ upside ที่โดดเด่นกว่า 20% จากการประมาณการของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อไทยที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากปัญหาด้านคอขวดอุปทานและราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงเป็นส่วนที่อาจกดดันในธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากทิศทางของดอกเบี้ยที่อาจถูกปรับขึ้น ประกอบกับแนวโน้มที่ลดลงของหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บริษัทมองว่า เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน Sentiment กลุ่ม Bank เช่นกันในครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตามจากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยมี upside มากกว่า 5% ใน 5 เดือนข้างหน้า โดยมองว่า ดัชนี SET100 (หุ้นขนาดใหญ่)มีโอกาสในการสร้าง upside อย่างโดดเด่นราว 10% ซึ่งบริษัทมองเป็นโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยพร้อมเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ ท็อป ซีเล็คชั่น 5MC (ONE-TOP5MC) ระหว่างวันที่ 20-28 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์
กองทุน ONE-TOP5MC ตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 5% ภายใน 5 เดือน โดยมีเงื่อนไขในการเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.53 บาทต่อหน่วย ซึ่งมูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่า 10.50 บาท และ บริษัทจัดการสามารถรวบรวมเงินสดหรือตราสารสภาพคล่องได้เพียงพอ เพื่อรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ลักษณะเด่นของกองทุน ONE-TOP5MC จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ซึ่งตัวอย่างพอร์ต 5 อันดับแรก อาทิ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มขนส่ง และกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ ในสัดส่วนประมาณ 21% 17% 14% 10% และ 10% ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทมองว่า การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และมาตรการสนับสนุนของรัฐ หนุนอุปสงค์ที่อยู่อาศัยและรายได้ของกลุ่ม Property Development และ Industrial Estate ให้ฟื้นตัวดีในปีนี้ อีกทั้ง บริษัทเชื่อมั่นว่า ภายใน 5 เดือนถัดจากนี้ กองทุน ONE-TOP5MC มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ระบุไว้ เมื่อเทียบกับโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า