HoonSmart.com>> “ทาพาโก้” โชว์กำไรไตรมาส 2/65 กว่า 122.82 ล้านบาท โตแรง 318.76% เหตุบริษัทย่อยในสวีเดนมีรายได้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นแตะ 411 ล้านบาท หลังการฟื้นตัวเศรษฐกิจยุโรปและโควิดลดลง พร้อมรับรู้กำไรขายหุ้น PTC กว่า 103.75 ล้านบาท ด้านธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนแม่พิมพ์และเครื่องสำอางรายได้ลดลง
บริษัท ทาพาโก้ (TAPAC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2565 มีกำไรสุทธิ 122.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.30 บาท เพิ่มขึ้น 318.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 37.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 152.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.37 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 51.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท
สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการผลิตภัณฑ์พลาสติก,แม่พิมพ์,ธุรกิจค้าปลีกและขายที่ดินโดยบริษัทย่อยประเทศสวีเดนทั้งสิ้น 262.896 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการอยู่ที่ 380.959 ล้านบาท ลดลงคิดเป็น 30.99% (เพิ่มขึ้นในส่วนของรายได้จากการขายชิ้นส่วนพลาสติก,ลดลงในส่วนของรายได้จากการขายแม่พิมพ์ รายได้จากการค้าปลีกเครื่องสำอาง และไม่มีรายได้จากการขายที่ดินโดยบริษัทย่อยในสวีเดน) โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.70% ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 26.21% โดยสาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการจำหน่ายแม่พิมพ์และขายที่ดินซึ่งเป็นธุรกิจทีมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
บริษัทย่อย C4Hus AB มีรายได้ค่าก่อสร้างอยู่ที่ 411.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 263.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.01% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปและผลกระทบของโควิด-19 ที่ลดลง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 12.85% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 4.79%
นอกจากนี้บริษัทย่อย มีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน 103.75 ล้านบาท และกำไรจากการจัดประเภทเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนในตราสารทุน 22.198 ล้านบาท โดยมาจากเงินลงทุนในบริษัท พรีเมียร์แทงค์คอร์ปอเรชั่น (PTC) อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายเงินลงทุนดังกล่าวทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน PTC ลดลง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 24.298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 12.904 ล้านบาท โดยสาเหตุที่เพิ่ทขึ้นเกิดจากกำไรจำหน่ายเงินลงทุนใน PTC