HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่ม BTS รับแรงกดดันจาก”ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”ชนะเลือกตั้ง ตามนโยบายหาเสียงไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเชียวของ BTS ที่จะหมดอายุปี 2572
เมื่อเวลา 11.00 น.หุ้นในกลุ่ม BTS อ่อนตัวลง นำโดยหุ้น BTS ลบ 3.33% มาอยู่ที่ 8.70 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 937.86 ล้านบาท
หุ้น VGI ลบ 0.41% มาอยู่ที่ 4.88 บาท ลดลง 0.02 บาท มูค่าซื้อขาย 15.53 ล้านบาท
หุ้น PLANB ทรงตัวที่ 7.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 23.57 ล้านบาท
บล.กสิกรไทย มองว่า หลังการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งติดตามนโยบายหาเสียงที่จะไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS ที่จะหมดอายุในปี 2572 อาจเป็น sentiment ลบต่อหุ้น BTS และบริษัทในเครือ VGI, PLANB
อนึ่ง ้ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ล่าสุดระบุ BTS ถือหุ้น VGI 21.95% และ VGI ถือหุ้น PLANB 18.59%
บล.กรุงศรี ยังคงแนะ”ซื้อ”หุ้น BTS ราคาเป้าหมาย 12.6 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงจากความกังวลว่า หนึ่งในนโยบายของผู้ว่าฯกทม.คนใหม่คือ ไม่ต่อสัมปทานกับ BTS ในปี 2572 ประเด็นนี้ไม่กระทบราคาเป้าหมาย เนื่องจากใช้สมมติฐานว่า BTS จะไม่ได้ต่อสัมปทานใน 2572
หนึ่งในนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ คือไม่ต้องการต่อสัมปทานกับ BTS หลังสัมปทานจะหมดอายุในปี 2029 (หรือ 7 ปีต่อจากนี้) รวมถึงต้องการคงค่าโดยสารในระดับ 20-25 บาทตลอดสายสีเขียวรวมส่วนต่อขยาย ไม่เป็นที่ประหลาดใจหากไม่ต่อสัมปทาน (สมมติฐานกรณีฐานของเรา) นโยบายจะสร้างแนวโน้มเชิงลบต่อหุ้น BTS อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะในระยะสั้น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ว่ากทม. คนใหม่สามารถทำนโยบายได้ตามที่หาเสียงไว้
แต่มีข้อโต้แย้งที่อาจลดความกังวลของตลาด ประเด็นแรก valuation การต่อสัมปทานของ BTS หลังสัมปทานปัจจุบันหมดอายุลงในปี 2572 ไม่กระทบ valuation ราคาเป้าหมายที่ 12.4 บาท ซึ่งอ้างอิงสัญญาเดิมระหว่าง BTS และ KT ที่ BTS จะดำเนินงานสายหลักจนกระทั้งธ.ค. 2567 และจะดำเนินงานสายหลักในสัญญา O&M จนกระทั่งธ.ค. 2585 ประเด็นที่สองการต่ออายุสัมปทานจะเพิ่มมูลค่าอีก 2.9 บาทให้ราคาเป้าหมายที่ 12.4 บาท และมองว่าการต่อสัมปทานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับ KT เป็นเพราะ KT ยังมีหนี้ค้างชำระหากไม่มีการต่อสัญญา ในระยะสั้น KT ต้องชำระเงินอย่างน้อย 3.2 หมื่นล้านบาท ให้ BTS สำหรับงาน M&E และ O&M ตั้งแต่ปี 2562 ในระยะยาว KT ยังมีหนี้อีกกว่า 5.0 หมื่นล้านบาท จากงานโยธาของสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งมองว่า KT ไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากขยายสัญญาสัมปทาน ประเด็นที่สาม ราคาค่าโดยสารใหม่ไม่เกิน 65 บาทไม่แพง
คำถามคือประเด็นนี้จะกดดันราคาหุ้นนานแค่ไหน ในอดีตไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับ BTS แต่หากรณีที่มีความใกล้เคียง คือ กรณีของ BANPU กับโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งราคาหุ้น BANPU ปรับตัวลงหลังคำพิพากษา 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ราคาหุ้นกลับมาซื้อขายตามราคาพื้นฐาน จึงมองการปรับตัวลงของราคาหุ้น BTS จากความกังวลสัมปทานเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ