JCK ผนึก”เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่”ให้บริการพลังงานไฟฟ้า

HoonSmart.com>>”เจซีเคอินเตอร์เนชั่นแนล”(JCK)จับมือกับ”เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่”ศึกษารูปแบบธุรกิจการให้บริการเทคโนโลยีด้าน Solar Renewable Energy เล็งสร้างรายได้ให้ JCK จากการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟให้แก่ผู้ประกอบการในนิคม TFD พร้อมคาดยอดขายที่ดินในนิคม TFD ปีนี้ทำได้ตามเป้า นอกจากนี้ ยังจะขยายธุรกิจไปกัญชง-กัญชา โดยจะร่วมมือกับผู้รู้จากสหรัฐฯ-เนเธอร์แลนด์ ตั้งบริษัทร่วมทุนพร้อมดำเนินการได้ภายในปีนี้

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจซีเคอินเตอร์เนชั่นแนล (JCK) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ เพื่อศึกษารูปแบบธุรกิจการให้บริการเทคโนโลยีด้าน Solar Renewable Energy แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี โดยจะใช้เทคโนโลยี่ของ SCG ซึ่งเป็น Smart Energy ในรูปแบบต่างๆ เช่น Solar Roof, Solar Farm หรือ Solar Floating โดยใช้พื้นที่หลังคาและพื้นที่ในนิคม TFD ดำเนินการติดตั้ง

ทั้งนี้ การร่วมมือกันกับ SCG ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับ JCK เป็นอย่างมาก เพราะแต่เดิมในนิคม TFD ผู้ประกอบการจะใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดย JCK ไม่ได้มีรายได้จากการใช้ไฟฟ้าของผู้ประกอบการเลย แต่เมื่อเรามาผลิตกระแสไฟขึ้นมาและจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการในนิคมก็จะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ JCK อีกทางหนึ่ง อีกทั้งไฟฟ้าที่ได้มาจาก Solar เป็นพลังงานบริสุทธิ์ก็จะเป็นการช่วยลดมลภาวะในภาพรวมให้แก่นิคม TFD อีกด้วยและสอดคล้องกับนิคม TFD ซึ่งเป็นนิคมที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

นายอภิชัย กล่าวต่อว่า ในปี 65 คาดว่ายอดขายที่ดินในนิคม TFD จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะจากการที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศ ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาดูพื้นที่ในนิคมมากขึ้นคาดว่าจะสามารถขายที่ดินได้ไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ โดยไตรมาสแรกได้โอนขายที่ดินไปแล้วประมาณ 30 ไร่ ส่งผลให้ JCK มีผลกำไรประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสัญญานที่ดีสำหรับ JCK ว่าจะกลับมามีผลประกอบการที่โดดเด่นอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายการทำธุรกิจไปในธุรกิจกัญชงและกัญชา โดยจะร่วมมือกับผู้มีความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจกัญชงและกัญชาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์มาตั้งบริษัทร่วมทุนกับ JCK เพื่อทำการผลิตและจำหน่าย ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยจะทำการปลูกด้วยวิธีการอันทันสมัยไปจนกระทั่งสกัดและแปรรูปไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเริ่มดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 นี้