HoonSmart.com>> บลจ.อเบอร์ดีน เชื่อมั่นว่าการที่นักลงทุนไทยมีความรู้ในด้านการลงทุนที่มากขึ้นจะทำให้การลงทุนที่เน้นความยั่งยืนและเศรษฐกิจสีเขียวทวีความสำคัญยิ่งขึ้น และประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในเอเชียได้
นายเรเน่ บิวล์แมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ อเบอร์ดีน ซึ่งมาเยือนจากสิงคโปร์ เน้นย้ำว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่มีโอกาสสร้างการเติบโตให้กับบริษัท ทั้งนี้ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มที่สำคัญและการลงทุนที่จะมอบโอกาสที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุนไทยได้ คือการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG)
“การที่นักลงทุนไทยมีความตระหนักรู้ด้านสังคมมากขึ้นก็ย่อมต้องการลงทุนในบริษัทที่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้าน ESG ที่แข็งแกร่ง จากการพูดคุยครั้งล่าสุดกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าบริษัทไทยหลายแห่งมีความพร้อมที่จะเปิดเผยการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและด้าน ESG มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีมากสำหรับนักลงทุนทั่วโลก”
“อเบอร์ดีน เป็นผู้ริเริ่มการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน เราสามารถช่วยให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านความยั่งยืนได้ด้วยความเชี่ยวชาญที่เรามีในด้านการผนวกแนวทาง ESG ในการดำเนินงาน ตลอดจนการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องกับผู้วางนโยบายและบริษัทต่างๆ” นายบิวล์แมนน์กล่าวว่าการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรสามารถทำได้ควบคู่ไปกับการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม “เรามุ่งหวังที่จะมอบผลลัพธ์การลงทุนที่สามารถสร้างความงอกเงยทางการเงินและสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมได้ด้วย นักลงทุนควรเลือกการลงทุนที่สามารถมอบผลตอบแทนด้านการเงินและด้านสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวม”
การลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือในด้าน ESG เป็นการสร้างความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอของการลงทุน และช่วยให้นักลงทุนสามารถหลบเลี่ยงผลกระทบจากสภาวะที่ราคามีการปรับตัวลงได้ โดยการลงทุนใน clean energy และ digital transformation นั้นเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
นายบิวล์แมนน์ยอมรับว่าตลาดการเงินในอนาคตมีความไม่แน่นอนอย่างมาก ซึ่งเป็นผลทั้งจากเงินเฟ้อในตลาดโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปตะวันออก และผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่มีต่อแนวโน้มทั้งเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าเอเชียจะยังสามารถเติบโตต่อไปท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรและการมีกำลังซื้อที่สูงขึ้นจะยังทำให้นักลงทุนต้องการที่จะลงทุนในเอเชียอยู่
นายบิวล์แมนน์เชื่อมั่นว่า อเบอร์ดีน สามารถมอบผลลัพธ์ทางการเงินที่ดีที่สุดได้จากการที่มีทางเลือกด้านการลงทุนที่หลากหลายที่เน้นการสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าในประเทศไทย โดยการผนวกปัจจัย ESG ในกระบวนการลงทุน อเบอร์ดีน สามารถช่วยให้ลูกค้าลงทุนโดยคำนึงถึงและรับผิดชอบต่อผลกระทบต่อส่วนรวมและยังสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ในเวลาเดียวกัน
นักลงทุนไทยจะได้รับประโยชน์จากความสามารถรอบด้านของบริษัททั้งในส่วนของตลาดการลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมไปถึงตลาดเกิดใหม่ ตลอดจนความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารทรัพย์สินประกันภัย
“จากการดำเนินกิจการในประเทศไทยอย่างมั่นคงมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี อเบอร์ดีน มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่นักลงทุนไทยกำลังมองหา การ rebranding ของบริษัทเป็นการส่งสัญญาณว่าเรากำลังพัฒนาเพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้า และด้วยการที่เรามีบริการด้านการลงทุนที่หลากหลายประกอบกับความเชี่ยวชาญระดับโลก เรามุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสการลงทุนอย่างยั่งยืนที่ดีที่สุดให้แก่นักลงทุนไทย”
“อเบอร์ดีน มอบทางเลือกการลงทุนที่ยืดหยุ่นและสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ตรงต่อเป้าหมายที่หลากหลายได้ โดยที่ในขณะเดียวกันยังช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลงเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยกระจายการลงทุนและสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้” นายบิวล์แมนน์กล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ อเบอร์ดีน ได้เสนอขาย 2 กองทุนที่เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่ผนวกแนวทาง ESG แก่นักลงทุนไทย ได้แก่ กองทุน abrdn Global Innovation Equity Fund ที่ลงทุนในภูมิภาคและภาคธุรกิจที่มีนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืนในอนาคต และอีกหนึ่งกองทุน คือ กองทุน abrdn Listed Private Capital Fund ที่มอบโอกาสการเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายให้แก่นักลงทุนในสินทรัพย์เอกชน เช่น private equity, private debt, infrastructure, และอสังหาริมทรัพย์ (REITs) โดยที่กองทุนทั้งสองนี้มีการผนวกปัจจัยด้าน ESG ในกระบวนการลงทุน