HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,579.93 จุด ลดลง 4.59 จุด ค่อนข้างผันผวน ท่ามกลางเผชิญแรงกดดันจากเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย-สถานการณ์ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ส่วนในประเทศก็โฟกัสการประกาศงบฯไตรมาส 1/65 แนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งทรงตัว โดยมีแนวรับ 1,580-1,560 นวต้าน 1,595-1,600 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 13 พ.ค.2565 ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,579.93 จุด ลดลง 4.59 จุด หรือ -0.29% มูลค่าซื้อขาย 41,844.37 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,597.58 จุด ต่ำสุด 1,578.42 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้รีบาวด์ได้ช่วงหนึ่งก่อนที่จะอ่อนตัวลง โดยตลาดค่อนข้างผันผวน ขณะที่ตลาดในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะบวกได้ดี โดยเฉพาะฝั่งเอเชียตะวันออก เนื่องจากยังเผชิญแรงกดดันจากนอกประเทศ ทั้งความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังเงินเฟ้อสหรัฐยังสูง และสถานการณ์ระหว่างยูเครน และรัสเซีย ที่ความยืดเยื้อ
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/65 และสัปดาห์หน้าติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 1/65 ของไทยที่จะประกาศออกมา
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะแกว่งทรงตัว ถ้ายืนเหนือ 1,580 จุดได้ก็ถือว่าไม่แย่ แต่ถ้าต่ำกว่าก็มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงได้ต่อในสัปดาห์หน้า พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,595-1,600 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BDMS ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +3.85% มูลค่าซื้อขาย 2,737.81 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.73% มูลค่าซื้อขาย 1,600.35 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.70% มูลค่าซื้อขาย 1,050.58 ล้านบาท
IVL ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +4.52% มูลค่าซื้อขาย 1,011.09 ล้านบาท
CRC ปิดที่ 35.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -4.08% มูลค่าซื้อขาย 966.88 ล้านบาท