“กองสำรองเลี้ยงชีพ” พัฒนาแล้ว เพิ่มนโยบายลงทุนตามอายุ

ก.ล.ต. เผยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 1 ปีสินทรัพย์โต 8% นโยบายแบบสมดุลตามอายุได้รับความนิยมมากขึ้น นายจ้างปรับตัวย้ายไปกองทุนร่วม เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกและความคล่องตัวในการบริหารเงินลงทุน

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2561 มีจำนวนนายจ้างเพิ่มขึ้น 788 ราย รวมเป็น 17,866 ราย มีสมาชิกกองทุนเพิ่มขึ้น 75,992 ราย รวมเป็น 3,015,729 ราย หรือ 4.61% และ 2.85% ตามลำดับ ในขณะที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1,100,686 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2560

“เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นทิศทางที่ดีว่านายจ้างให้ความสำคัญกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถึงแม้ว่าเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนถือเป็นรายจ่าย แต่ก็เป็นสวัสดิการสำคัญที่นายจ้างดูแลลูกจ้างให้มีเงินออมอย่างเพียงพอเมื่อยามเกษียณ” นายรพี กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทนโยบายสมดุลตามอายุ (life-path) ที่ปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย โดยไตรมาส 2 ปี 2561 มีบริษัทจัดการลงทุน 7 แห่ง และนายจ้าง 239 ราย ที่เสนอทางเลือกในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบสมดุลตามอายุ คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจำนวน 6,087 ล้านบาท

ขณะที่นายจ้างมีแนวโน้มที่จะเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ลูกจ้าง โดยการยกเลิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกองเดิมซึ่งมีนโยบายเดียว เพื่อย้ายไปยังกองทุนร่วมที่มีหลากหลายนายจ้างและหลากหลายนโยบายการลงทุน (master pooled fund) ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกจ้างมีโอกาสเลือกนโยบายที่เหมาะสมกับช่วงอายุของตนเองแล้ว ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้แก่นายจ้างในการบริหารกองได้อีกด้วย

ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีนายจ้างจำนวน 10 ราย ที่ทยอยย้ายไปลงทุนในกองทุนร่วม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 45 กองจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมด 383 กอง

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนเตรียมเปิดตัวโครงการ “บริษัทเกษียณสุข” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมให้บริษัทที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเห็นความสำคัญและร่วมสนับสนุนให้พนักงานมีเงินใช้อย่างเพียงพอในวัยเกษียณโดยใช้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเครื่องมือ เปิดโอกาสให้บริษัทที่มีสมาชิกตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การอบรมความรู้ สื่อการเรียนรู้ การประชาสัมพันธ์บริษัท และรางวัลเชิดชูเกียรติสำหรับบริษัทที่ดำเนินการได้ตามเกณฑ์ระดับต่างๆ ของโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับบริษัทที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ www.happyPVD.com/company