หุ้นกลัวเงินไหลออก พบกัน1,580 จุด คนไทยทิ้ง 8 พันลบ. ฝีมือบิ๊กล็อต BH

HoonSmart.com>>หุ้นจ่อหลุด 1,600 หลังร่วงลง -1.54% แต่ดีกว่าเวียดนาม-อินโดนีเซียที่ดิ่งกว่า 4% ฮ่องกงรูดลง -3.81%  ตลาดหุ้นสหรัฐล่วงหน้าทรุดกว่า 1-2% บอนด์ยีลด์ขึ้นแตะ 3.175% บิทคอยน์หลุด 3.3 หมื่นดอลลาร์ กังวลเงินเฟ้อสูงเกินคาด กดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยแรง สถานการณ์ยูเครนยืดเยื้อ เงินบาทอ่อนมากกดดันเงินไหลออก สัปดาห์นี้ลุ้นลงลึกถึง 1,580  นักลงทุนไทยทิ้งมากถึง 8,347 ล้านบาท บิ๊กล็อต”BH “โผล่ 10,900 ล้านบาท

วันที่ 9 พ.ค.2565 ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ยังคงทรุดลงแรง หุ้นไทยก็หนีไม่พ้น ดัชนีปิดที่ระดับ 1,604.49 จุด ลดลง 25.09 จุด หรือ -1.54% มูลค่าซื้อขาย 81,607.55 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายเพียง 431 ล้านบาท สถาบันไทยซื้อสุทธิ 1,493.74 ล้านบาท แต่เกิดปรากฎการณ์ผิดปกติ นักลงทุนไทยทิ้งมากถึง 8,347.32 ล้านบาท ส่วนบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 7,284.14 ล้านบาท น่าจะเกิดจากรายการบิ๊กล็อต BH จำนวน 8 รายการ มูลค่า 10,899.99 ล้านบาท โดย นายสาธิต วิทยากร ขายจำนวน 71.947 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 151.50 บาทให้กับสถาบันการเงิน โดยยังคงมีหุ้นในมือถือลงทุนอีกกว่า 60 ล้านหุ้น

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ Emerging Market ปรับตัวลงแรง อย่างตลาดหุ้นเวียดนาม และตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ที่ร่วงไป 4% มากเป็นพิเศษ จากความกังวลเงินทุนไหลออก ขณะที่ตลาดอื่นในภูมิภาคจะติดลบราว 1-2% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบ เหมือนกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะออกมาในคืนวันพุธนี้ โดยถ้าเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมามากกว่า 8.5% ก็จะสร้างความกังวลให้นักลงทุน แต่ถ้าต่ำกว่าหรือระดับ 8% จะทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และมีโอกาสที่ตลาดฯจะรีบาวด์ได้

“หากเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาสูงก็เป็นแรงผลักดันให้เฟดต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ประธานเฟดออกมาพูดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% แต่ถ้าเงินเฟ้อสูง คนก็ไม่เชื่อคำพูดของประธานเฟด และมองเฟดมีโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่พูดไว้”

นอกจากนี้ สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครนก็ยังยืดเยื้อ และอาจส่งผลกระทบในระยะยาวได้ รวมถึงเงินบาทอ่อนค่ามาที่ 34.60 บาท/เหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าสุดนับจากเดือนส.ค.2560 ทำให้เงินทุนต่างชาติมีโอกาสไหลออก จึงมองในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะลงลึกสุดแถว 1,580 จุด ซึ่งยังต้องระวังการลงทุนในช่วงนี้

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 10 พ.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งตัว แต่ก็มีโอกาสรีบาวด์ได้หลังจากลงไปลึก พร้อมให้แนวรับ 1,590-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด