เงินเฟ้อเม.ย.ขยายตัว 4.65% สินค้า 182 รายการปรับราคาขึ้น

HoonSmart.com>>พาณิชย์ เผย CPI เดือนเม.ย. 65 ขยายตัว 4.65% ส่วน Core CPI ขยายตัว 2.00%   สาเหตุหลักจากราคาพลังงาน อาหารสด ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาอาหารสำเร็จรูปสูงขึ้น  รวม 4 เดือนเงินเฟ้อเฉลี่ย 4.71%  คาดทั้งปีเคลื่อนไหวในกรอบ 4-5%  จับตาการปรับขึ้นราคาสินค้า 

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเม.ย. 2565 อยู่ที่ระดับ 105.15 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.65% และเพิ่มขึ้น 0.34% จากเดือน มี.ค.2565 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 2565) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.71%

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน เม.ย.2565 อยู่ที่ 102.57 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.00% และเพิ่มขึ้น 0.14% จากเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เฉลี่ย 4 เดือนแรก อยู่ที่ 1.58%

ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับหลายประเทศ ยังคงเป็นราคาพลังงาน อาหารสด และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาอาหารสำเร็จรูปสูงขึ้น และส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการคว่ำบาตร ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิต การค้า และการขนส่ง ราคาสินค้าและบริการในประเทศจึงปรับสูงขึ้น

สำหรับราคาสินค้าและบริการในเดือนเม.ย.สูงขึ้น 182 รายการ เทียบกับเดือนมี.ค. 2565 ได้แก่ เนื้อสุกร, มะนาว, ไข่ไก่, ผักกาดขาว, น้ำมันพืช, อาหารสำเร็จรูป, ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น ส่วนสินค้าและบริการที่ราคาลดลง 83 รายการ ได้แก่ ต้นหอม, มะม่วง, ผักคะน้า, ข้าวสารเหนียว, โฟมล้างหน้า และค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ เป็นต้น ขณะที่สินค้าและบริการอีก 165 รายการ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นายรณรงค์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.65 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล และการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลได้สิ้นสุดลง อีกทั้งการปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันไดของก๊าซหุงต้ม (LPG) ในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2565 รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ

“ผลจากมาตรการคว่ำบาตร และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ จะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป ซึ่ง สนค. จะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ราคาสินค้าก็อาจจะเพิ่มขึ้น ส่วนจะเพิ่มขึ้นเร็วหรือเพิ่มแบบชะลอตัว ก็อีกเรื่องหนึ่ง ” ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อปี 2565 ยังคงคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 4-5% (ค่ากลางอยู่ที่ 4.5) ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สนค. จะมีการทบทวนอีกครั้ง