บล.พาย คัด 10 หุ้นเด่นปัจจัยหนุน

HoonSmart.com>> “บล.พาย” จับตาประชุม FED ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% หากส่งสัญญาณเข้มงวดกว่าคาด หุ้นเสี่ยงปรับลง ด้าน Bloomberg ปรับลดกำไรรวมตลาดลงมาอยู่ที่ 94.4 บาท/หุ้น ราคาหุ้นยังค่อนข้างแพง ระยะสั้นแนะหุ้นที่มีปัจจัยบวก คัด 10 หุ้นเด่น “กลุ่มส่งออก โรงกลั่น น้ำมัน” ชี้เป้า “ASIAN, TU,AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA ,BCP, SPRC, TOP

บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย (Pi) ประเมินสัปดาห์นี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับการประชุม FED ที่คาดทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นตลาดคาดว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% อย่างไรก็ตามมองการขึ้นดอกเบี้ยไม่มีผลมากกับการลงทุน เชื่อว่าถ้อยแถลงหลังประชุมรวมถึงทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไปมีผลมากกว่า โดยตลาดคาดสิ้นปี 2022 ดอกเบี้ย FED จะเฉลี่ยอยู่ 2.9% หากไม่มีสัญญาณที่เข้มงวดกว่าตลาดคาดก็มองมีผลจำกัด แต่หากส่งสัญญาณที่เข้มงวดกว่าก็เสี่ยงจะปรับลง

ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ การรายงานภาคแรงงานสหรัฐในวันศุกร์โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตร Bloomberg คาด 3.9 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.5% เชื่อว่าตลาดไม่ต้องการเห็นตัวเลขที่ร้อนแรงจนเกินไปเพื่อให้ FED ดำเนินนโยบายที่ไม่เข้มงวดมากนัก

ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา Dow Jones ปรับฐานแรง 2.7% หลักๆปัจจัยกดดันยังเป็นเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐรวมถึงผลประกอบการบางบริษัทที่ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะเดียวกันสหรัฐได้รายงานเงินเฟ้อ (Core PCE) +0.3%MoM +6.6%YoY นับเป็นการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 40 ปี มองเป็นปัจจัยที่จะกดดันตลาดหุ้นไทยในวันทำการแรก

ด้านปัจจัยในประเทศวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน เม.ย. Bloomberg คาดขยายตัว 4.9%YoY และ 0.6%MoM โดยเชื่อว่าทิศทางเงินเฟ้อไทยยังมีโอกาสเร่งขึ้นได้อีกหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มปล่อยราคาน้ำมันดีเซลให้ขยับสูงมากยิ่งขึ้น มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆจะขยับขึ้นนอกจากเร่งเงินเฟ้อแล้วยังกระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างเลี่ยงมิได้ และสุดท้ายกระทบกำไรบริษัทจดทะเบียน

ล่าสุด Bloomberg ปรับลดกำไรรวมของตลาดลงมาอยู่ที่ 94.4 บาท / หุ้น จากก่อนหน้าอยู่ที่ 97 บาท / หุ้น ถัดมาเป็นเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Bloomberg คาด จะมี (GPSC) รายงานในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ประเมิน SET เคลื่อน ไหวในกรอบ 1650 – 1680 จุด

เชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่เร่งร้อนลงทุนเช่นเดิมเนื่องจากระดับ Valuation ยังค่อนข้างแพง อย่างไรก็ตามระยะสั้นแนะหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ ส่งออก (ASIAN, TU) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) โรงกลั่น (BCP, SPRC, TOP)

ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ประเมินกำไรฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q22 จากรายได้อาหารสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งขึ้น หนุนจากกำลังการผลิตใหม่และอัตรกำไรที่ปรับดีขึ้นจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ผ่อนคลายลง

SPA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท) คาดผลประกอบการจะแตะจุดต่ำสุดของปีใน 1Q22 ด้วยผลขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาท ก่อนที่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q22 เป็นต้นไป ด้วยแรงหนุนจากการเปิดประเทศ