ผถห. SSP เคาะปันผล XD 5 พ.ค. มั่นใจปี 65 ผลงานออลไทม์ไฮต่อเนื่อง

HoonSmart.com>> ผู้ถือหุ้น “เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น” ไฟเขียวจ่ายหุ้นปันผลอัตรา 10 ต่อ 1 พ่วงเงินสด 0.0111111114 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 5 พ.ค.นี้ จ่ายเงิน 25 พ.ค. ด้าน CEO “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจผลงานปี 65 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง บิ๊กดีลร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเพียบ หวังผลักดันกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ภายในปี 67 ตามแผน

วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 26 เม.ย.2565 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0111111114 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พ.ค. 2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พ.ค.2565

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และอยู่ระหว่างเจรจาดีล M&A ร่วมกับพันธมิตรในหลายโครงการ ทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆนี้

“มั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 241.5 เมกะวัตต์ และวางเป้าหมายเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายในปี 2567” นายวรุตม์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2 ปี 2567

ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟส 2 ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนาม

ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้น “วินชัย”ทั้งหมด 25% จาก Qian Xing Long มูลค่า 752 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในจังหวัดมุกดาหาร มีสัญญา Adder 3.5 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) เป็นระยะเวลา 10 ปี ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2562 และเตรียมรับรู้กำไรเข้ามาทันทีในไตรมาส 1/65

อนึ่ง ผลการดำเนินงานในปี 2564 กลุ่มบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ โดยมีรายได้รวม 2,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,935 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 736 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 2,023 ล้านบาท เพิ่ม