บลจ.กสิกรฯ มองบวกโครงสร้างพื้นฐานโลก-แนสแด็กอัพไซด์น้อย

บลจ.กสิกรไทย มองเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตดี แต่ตลาดหุ้นแนสแด็คพุ่งแรงกดอัพไซด์จำกัด ส่วนหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกได้หลายปัจจัยหนุน ยุโรปฟื้นตัวและสหรัฐร่างแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ชู”กองทุน K-USXNDQ-A(D) และ K-GINFRA พร้อมปันผลพร้อมกันกว่า 42 ล้านบาท

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตดี ตัวเลข GDP ออกมาแข็งแกร่งโดยประมาณการ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 4.2% สูงกว่าประมาณการรอบแรกที่ 4.1% นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ครั้งแรกในรอบ 6 ปี หนุนความชัดเจนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง รวมเป็น 4 ครั้งในปีนี้

ส่วนดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งมีสัดส่วนหุ้นไอทีมากกว่าครึ่ง ได้ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปีกว่า 17% นำตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในภาพรวมที่ปรับขึ้นประมาณ 8% ทั้งนี้กว่า 90% ของบริษัทกลุ่มไอทีมีกำไรขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว แต่เนื่องจากระดับราคาหุ้นที่แพง ทำให้ราคาหุ้นที่คาดว่าจะขึ้นในอนาคต (Upside) มีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามผลการเจรจาในประเด็นความขัดแย้งทางการค้ากับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะกับจีน

นอกจากนี้มองหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ยังคงน่าสนใจจากหลายๆ ปัจจัย อาทิ บริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคยุโรปยังเติบโตดีตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในภูมิภาค ขณะที่รายได้ของธุรกิจกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานมีโอกาสเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อที่ฟื้นตัว อีกทั้งความคืบหน้าของการร่างแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ของประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงความมีเสถียรภาพของราคาน้ำมัน หนุนต่อหุ้นกลุ่มท่อส่งน้ำมัน

อย่างไรก็ตามจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการดำเนินปรับลดขนาดงบดุลที่เร็วกว่าคาด อาจสร้างความผันผวนให้ตลาด เนื่องจากเงินทุนมีแนวโน้มไหลออกจากธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานกลับเข้าลงทุนพันธบัตรรัฐบาลหากดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับตัวแรงขึ้น

นายนาวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A(D)) และ กองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หุ้นทุน (K-GINFRA) โดยทั้ง 2 กองทุนจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 มี.ค.2561 ถึงวันที่ 31 ส.ค.2561 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค.2561 และมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 ก.ย.นี้ รวมทั้งสิ้น 42 ล้านบาท

กองทุน K-USXNDQ-A(D) มีการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนแล้วทั้งสิ้น 20 ครั้ง รวมเป็นเงินอัตรา 6.90 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมา (1 มี.ค. 61 – 31 ส.ค. 61) กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 2.53% ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุน K-USXNDQ-A(D) ในช่วง 6 เดือน และ 1 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 11.46% และ 25.73%ต่อปี ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 12.53% และ 26.75%ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 61) กองทุนหลักบริหารโดยใช้นโยบายเชิงรับ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นสหรัฐ NASDAQ-100 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิง

สำหรับกองทุน K-GINFRA มีการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง รวมเป็นเงินอัตรา 1.30 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมา (1 มี.ค. 61 – 31 ส.ค. 61) กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 1.89% ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุน K-GINFRA ในช่วง 6 เดือน และ 1 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 4.44% และ -1.76%ต่อปี เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 6.54% และ -2.59%ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 61) โดยกองทุนหลักมุ่งที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในหุ้น รวมถึงทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts: REITs)