โรงกลั่นขึ้นยกแผง รับผลบวก คลังน้ำมัน “ซาอุดี อารามโก” ถูกโจมตี

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นขยับขึ้นยกแผง นำโดย  SPRC-TOP-IRPC  รับ Sentiment บวกจากคลังน้ำมัน”ซาอุดี อารามโก”ถูกโจมตี เล็งส่งผลให้ซัพพลายน้ำมันตึงตัว  ด้านดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,684.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.50 จุด หรือ +0.45% ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,216.69 ล้านบาท  ด้านนักลงทุนไทยขายสุทธิ 2,578.27 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 736.20 ล้านบาท

วันที่ 28 มี.ค.2565 หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นขยับขึ้นยกแผง นำโดยหุ้น SPRC บวก 4.04% มาอยู่ที่ 10.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 657.98 ล้านบาท
หุ้น TOP บวก 2.35% มาอยู่ที่ 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,867.66 ล้านบาท
หุ้น ESSO บวก 2.37% มาอยู่ที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 263.15 ล้านบาท
หุ้น IRPC บวก 1.12% มาอยู่ที่ 3.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 396.62 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำหุ้นในกลุ่มพลังงาน คง PTTEP และ TOP เป็น top pick กรณีคลังน้ำมัน”ซาอุดี อารามโก”(Saudi Aramco) ถูกโจมตี คาดส่งผลให้ซัพพลายน้ำมันตึงตัว เบื้องต้นมองกลุ่มต้นน้ำ และโรงกลั่นจะเป็นผู้ที่ได้ sentiment บวกต่อ PTTEP, TOP, BCP

เหตุการณ์คลังน้ำมันของ Saudi Aramco ถูกโจมตี จะทำให้ตลาดกังวลต่อสถานการณ์ปริมาณน้ำมันดิบตึงตัวมากขึ้น เพราะการโจมตีอาจยังมีได้ต่อเนื่อง ทำให้มีความเสี่ยงที่ผลกระทบต่อซัพพลายน้ำมันจะมากกว่าในวันที่ 25 มี.ค.65 ที่ได้รับความเสียหายที่คลังน้ำมัน โดยหากอ้างอิงในอดีตกลุ่มฮูติเคยโจมตีฐานการผลิตของ Saudi Aramco ใน ก.ย. 62 ส่งให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ ซึ่งกำลังการผลิตน้ำมันดิบของ Saudi Aramco ลดลงไปราว 58% จาก 9.8 mbd เป็น 4.1 mbd ทั้งนี้นับจาก ก.ย. 62 กลุ่มฮูติยังคงโจมตีฐานธุรกิจของ Saudi Aramco มาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ Saudi Aramco มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 9.8 mbd คิดเป็นราว 9% ของกำลังการผลิตโลก และกำลังการผลิตโรงกลั่นราว 4.0 mbd (net capacity) คิดเป็นราว 4% ของกำลังการผลิตโลก

ด้านตลาดหุ้นดัชนีปิดที่ระดับ 1,684.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.50 จุด หรือ +0.45% มูลค่าซื้อขาย 57,231.98 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,216.69 ล้านบาท  ด้านนักลงทุนไทยขายสุทธิ 2,578.27 ล้านบาท และสถาบันในประเทศขายสุทธิ 736.20 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ โดยในช่วงท้ายตลาดมีการเร่งขึ้นของดัชนีฯได้ดีพอควร จากแรงซื้อหุ้นที่กระจายตัว ทำให้คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยอยู่

ด้านตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 1% เศษ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาด Sentiment ดีในช่วงท้ายก็ได้ ท่ามกลางการเฝ้าติดตามสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน ซึ่งก็มีพัฒนาการที่ยูเครนมองเป็นกลางทางการทหารอยู่ อาจทำให้รัสเซียเลิกโจมตีได้ จากที่ไม่เข้านาโต้ด้วย

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกนง.ในวันพุธนี้ และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และบริการที่จะทยอยออกมา รวมถีงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ พร้อมมองมีโอกาสเกิด Winddow Dressing หลังดัชนีฯอยู่ไม่ห่างจากช่วงสิ้นปีที่แล้ว(2564)

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 29 มี.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกข้าง โดยมีแนวรับ 1,680-1,670 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690-1,700 จุด