HoonSmart.com>>”ซีแพนเนล” (CPANEL)เล็งผลงานไตรมาส 1/65 ดีกว่าไตรมาส 4/64หลังราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับขึ้นราว 10% ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ปัจจุบัน Backlog มีอยู่ 1,280 ล้านบาท สำหรับความคืบหน้าโรงงานแห่งที่ 2 คาดเดินเครื่องผลิตได้ประมาณปลายปี 66 หรือต้นปี เล็งรายได้เพิ่ม 100% ของโรงงานแห่งที่ 1 พร้อมเปรยแผนในอนาคตส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศ
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เปิดเผยว่า ผลงานไตรมาส 1/65 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/64 จากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับขึ้นประมาณ 10% จากไตรมาส 4/64 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น นำโดยราคาเหล็ก ส่วนงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันมีอยู่ 1,280 ล้านบาท
“เมื่อวัตถุดิบปรับตัวขึ้น ทำให้ต้องปรับราคาขายขึ้นไป ซึ่งเราก็มีการอธิบายให้ลูกค้าฟัง และลูกค้าก็ยอมรับได้ เพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งลูกค้าก็ได้รู้ได้เห็นอยู่แล้ว และราคาที่ปรับขึ้นนี้ทำให้คนหันมาแย่งซื้อสินค้า คงเพราะกลัวราคาจะขึ้นไปอีก จึงต้องการที่จะมีสินค้าไว้ในมือก่อน”
สำหรับสถานการณ์ภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่าสถานการณ์นี้จะไม่ทำให้เกิดเป็นสงครามโลก เพราะทั้งคู่ก็อยากจบ ซึ่งมองว่าถ้ารัสเซียทำอะไรมากเกินไปเศรษฐกิจรัสเซียก็จะพัง ส่วนยูเครนก็ชนไม่ได้ และการที่ยูเครนยอมรับไม่เข้ากลุ่มนาโต้ ก็เพราะนาโต้ไม่เอายูเครนอยู่แล้ว จีงมองว่าการเจรจาระหว่างรัสเซีย และยูเครนไม่จบลงได้ มองว่ามันคือละคร ดังนั้นเมื่อไรสถานการณ์คลี่คลายลง เชื่อว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะอ่อนตัวลงได้
กรรมการผู้จัดการ CPANEL กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโรงงานแห่งที่ 2 ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานแห่งแรก คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ประมาณปลายปี 66 หรือต้นปี 67 ซึ่งภายหลังเดินเครื่องแล้วบริษัทฯจะมีรายได้เข้ามาเพิ่ม 100% ของโรงงานแห่งที่ 1 โดยปัจจุบันโรงงานแห่งที่ 1 ใช้ Capacity ไปประมาณ 60-70% ซึ่งบริษัทคงมุ่งเน้นขายในประเทศอยู่ แต่ในอนาคตก็มีแผนที่จะส่งสินค้าออกไปขายประเทศอื่นด้วย
ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เวลานี้อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้คนย้ายออกมาอยู่นอกเมืองมากขึ้น บ้านราคาก็ดีขึ้นด้วย การค้าขายวัสดุก่อสร้างก็ดีขึ้นตาม
เมื่อเวลา 11.14 น.หุ้น CPANEL ลบ 2.61% มาอยู่ที่ 7.45 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.64 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.60 บาท ขึ้นสูงสุด 7.65 บาท และต่ำสุด 7.45 บาท