HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปรับตัวลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เกาะติดสงครามในยูเครน ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ วันที่ 4 มีนาคม 2565 ปิดที่ 33,794.66 จุด ลดลง 96.69 จุด หรือ 0.29% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมันและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลง และนักลงทุนยังคงเกาะติดสงครามในยูเครน
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,363.49 จุด ลดลง 23.05 จุด, -0.53%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,537.94 จุด ลดลง 214.08 จุด, -1.56%
กลุ่มเทคโนโลยียังคงลดลงหลังจากร่วงลงไปมากในต้นสัปดาห์ หุ้นซอฟต์แวร์ลดลงอย่างมาก โดยหุ้น Okta ลดลง 8% หุ้น Snowflake ลดลง 15% หลังรายงานผลการดำเนินงาน ส่วนหุ้น Salesforce หุ้น Adobe ต่างลดลงกว่า 2% หุ้นเทสลา ลดลง 4.6% และหุันแอมะซอนลดลง 2.7%
หุ้นผู้ผลิตอาวุธและหุ้นเฮลธ์แคร์ปรับขึ้นโดดเด่น โดยหุ้น Duke Energy เพิ่มขึ้น 1.8% หุ้น Amgen เพิ่มขึ้น 1.7%
ภาวะการซื้อขายดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดอื่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมาที่ 1.85%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งการสู้รบได้เข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ขณะที่รัสเซียและยูเครนเริ่มการเจรจารอบใหม่ในเบลารุส สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอีกรอบกับกลุ่มชนชั้นสูงด้านการเงินของรัสเซีย
นักลงทุนบางรายมองว่าตลาดใกล้จะถึงหรือถึงจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว นักยุทธศาสตร์ของ ซิตี้ ได้ยกระดับมุมมองต่อหุ้นสหรัฐและภาคไอทีทั่วโลก โดยระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้จะมีสถานการณ์ในยูเครน แต่หุ้นทั่วโลกก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง การลดลงกระจุกตัวในหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัสเซียและภาคการเงิน และชี้ว่าหุ้นทั่วโลกสูงขึ้น 10-20% หลังจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งก่อน
อย่างไรก็ตามอีกกลุ่มหนึ่งเตือนว่า อาจเป็นปีที่ยากลำบาก เนื่องจากตลาดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนโยบายที่เข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐ
นอกจากนี้นักลงทุนยังเกาะติดการให้ความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง(เฟด) ซึ่งรวมถึงการถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ต่อคณะกรรมการการธนาคารวุฒิสภาวันที่สอง ขณะที่นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สงครามในยูเครน ทำให้เฟดจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายพาวเวลล์กล่าวเมื่อวานว่า “เร็วเกินไปที่จะบอกว่าสงครามในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของเฟดอย่างไร เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง แต่เราคิดว่าเป็นการเหมาะสมที่จะดำเนินการตามแผนของเรา และแผนในการลดขนาดงบดุล เราไม่ต้องการที่จะทำให้ความไม่แน่นอนมากขึ้นอีก”
ราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ทำให้กังวลต่อเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันจะชะลอตัวลงเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานตึงตัว ซึ่งสะท้อนว่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ADP รายงานการจ้างงานภาคเอกชนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งสูงกว่า 375,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด
นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง และคาดว่ารายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 5.8% ต่อปี
กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 18,000 รายมาที่ระดับ 215,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ และต่ำกว่า 225,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
กระทรวงพาณิชย์รายงานคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.4% สูงกว่า 0.7% ที่นักวิเคราะห์ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 1.0
ด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนีภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาระดับ 56.5 ต่ำสุดในรอบ 1 ปี และต่ำกว่า 61.0 ที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคที่ลดลง 3.5% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศรัสเซียกับยูเครนยังคงตึงเครียด จากการรุกคืบเข้าไปของรัสเซีย
ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) ระงับการซื้อขายในบางบริษัทสอดคล้องกับการคว่ำบาตรล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในยูเครน และเพื่อไม่ให้ตลาดปั่นป่วน ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นเยอรมนีได้ระงับการซื้อขายใน 16 บริษัทที่มีการเชื่อมโยงกับรัสเซีย เช่นเดียวกับตลาดหุ้นนิวยอร์ก และ Nasdaq
บริษัทเหมือง Polymetal และ Evraz ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียก็ถูกปลดออกจาก FTSE 100 หลังจากที่ราคาหุ้นตกอย่างหนักจากการคว่ำบาตรรัสเซียจากประเทศฝั่งตะวันตก
ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอสรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์ของอังกฤษเพิ่มขึ้นแตะ 60.5 จากระดับ 54.1 ในเดือนมกราคม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 437.36 จุด ลดลง 8.97 จุด, -2.01%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,238.85 จุด ลดลง 190.71 จุด, -2.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 6,378.37 จุด ลดลง 119.65 จุด, -1.84
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,698.40 จุด ลดลง 301.71 จุด, -2.16%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล