HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 5.33 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังรับรู้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนไปในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งหุ้นในกลุ่มแบงก์กลับมาได้ค่อนข้างดี ด้านนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,571.88 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,806.30 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ยังมีลุ้นขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1,685 จุดส่วนแนวต้าน 1,710 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 ก.พ.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,696.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.33 จุด หรือ +0.32% มูลค่าซื้อขาย 87,667.59 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,700.35 จุด ต่ำสุด 1,686.09 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,571.88 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 88.86 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,806.30 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 145.57 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียบวกราว 0.4-0.5% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกราว 1% ตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้น 250 จุด โซนนี้ตลาดได้รับรู้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครนไปในระดับหนึ่งพอควรแล้ว แต่ก็ยังต้องจับตาสถานการณ์ต่อไป
ทั้งนี้ ตลาดฯได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคารที่กลับมาได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ดีจะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก และตัวเลขส่งออกของไทยที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 24 ก.พ.2565 ตลาดยังมีโฮกาสปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย จากความพยายามที่จะยืนให้เหนือ 1,700 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,685 จุดส่วนแนวต้าน 1,710 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +2.43% มูลค่าซื้อขาย 5,610.66 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.28% มูลค่าซื้อขาย 3,533.15 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 5.00 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -1.96% มูลค่าซื้อขาย 2,821.38 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.51% มูลค่าซื้อขาย 2,200.31 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 67.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.75% มูลค่าซื้อขาย 2,103.91 ล้านบาท