“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,680-1,685 จุด แนะ SNC-CPF

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ถูกกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลัง “ปูติน” รับรองเอกราช 2 รัฐอิสระ ผิดต่อสนธิสัญญามินสต์ วางแนวรับดัชนี 1,680 – 1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ SNC-CPF

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ SET ต่ำกว่า Filter ที่ 1,700 จุด ส่งผลให้ดัชนีเสียโมเมนตัมขาขึ้น โดยประเมิน SET กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,680 – 1,685 จุด แนวต้าน 1,705 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้นบริเวณแนวรับในหุ้นกลุ่มหลัก เช่น KBANK, SCB, ADVANC, HMPRO, MAKRO, BDMS

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ, ตลาดน้ำมัน, ทองคำ วานนี้ปิดทำการในวันหยุด President Day ค่ำวันนี้จะเปิดทำการปกติ ขณะที่ DJIA Futures เช้านี้ -0.31% หลังรัสเซียประกาศรับรอง 2 รัฐอิสระ คือ โดเนตสก์, ลูฮันสก์ ที่ประชากรส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนรัสเซีย เป็นการผิดต่อสนธิสัญญามินสต์ ที่รัสเซียจะไม่แบ่งแยกดินแดนในยูเครน ส่งผลให้ทางยุโรปอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมัน WTIFutures เช้านี้ +2.57% อยู่ที่ $92.53/บาร์เรล , ทองคำ +0.30% อยู่ที่ $1,909/ออนซ์ และดัชนี VIX Index ปรับขึ้น +0.44% อยู่ที่ 29.18

ส่วนตลาดยุโรป Stoxx600 ปิด -1.30% ต่ำสุดในรอบ 4 เดือนกลุ่มรถยนต์และเทคโนโลยีปรับลดลง หลังไม่มีการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียกับสหรัฐ และปูตินได้ประกาศรับรอง 2 รัฐอิสระในพรมแดนดอนบาส และตั้งแต่ต้นปี -20.2% ถูกกดดันจากปัญหารัสเซีย – ยูเครน

สำหรับหุ้นแนะนำ SNC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.80 บาท) รายงานกำไร 4Q64 เท่ากับ 189 ล้านบาท +41%QoQ, +64%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 65 เติบโต 10-15% Key Driver หลักยังอยู่ที่งาน OEM ที่ขยายตัวได้ดี (สัดส่วน 80% ของยอดขายรวม) ทั้งในส่วนของการประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ Toolbox ส่วนงานกลุ่ม Automotive แนวโน้มเติบโตตามอุตสาหกรรม

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานระยะสั้น 1Q65-2Q65 น่าจะยังเห็นกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ, YoY ต่อเนื่องเพราะเข้าช่วง High Season และรับคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ Valuation ไม่แพง PER’65 ราว 9-10 เท่า คาดหวัง Div.Yield 5-6%

หุ้น CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท) ประเมินกำไรสุทธิในช่วง 4Q64 ที่ระดับ 5.64 พันลบ.(-12.03%YoY และพลิกมีกำไรจาก 3Q64 ที่ขาดทุนสุทธิ 5.37 พันลบ.) โดยถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนจากดีล Makro (เงินลงทุนใน Lotus และการได้มาของหุ้น Makro) เป็นกำไรราว 7 พันลบ. และราคาเนื้อสัตว์ในไทยเริ่มฟื้นตัวจาก Supply สุกรที่หายไปของรายย่อย(ราคาสุกร และราคาไก่ ในประเทศเดือน ธ.ค.64 ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 84 บาท/กก. และ 37บาท/กก. ตามลำดับ) แต่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับสูง และ ราคาเนื้อสัตว์ต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนามยังไม่ perform เท่าไรนัก

อย่างไรก็ตามภาพรวมของการดำเนินงานในปีนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้ดีขึ้นตามราคาเนื่อสัตว์ที่ฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ช่วง Q1 เป็นช่วงตรุษจีน ส่งผลให้ demand เนื้อสัตว์สูงขึ้น เป็นบวกต่อภาพราคาขายเช่นกัน

อ่านข่าว

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 400 จุดหลังรัสเซียรับรองเอกชราช 2 รัฐอิสระ