HoonSmart.com>>”บอร์ดไทยออยล์” ไฟเขียวแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาว เพิ่มทุนเสนอขายประชาชนทั่วไป ลดสัดส่วนการถือหุ้น “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” ขายปตท. มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน เพิ่มความพร้อมเพื่อต่อยอดธุรกิจหลังขยายเข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมีที่อินโดนีเซีย
บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า วันที่ 17 ก.พ.2565 คณะกรรมการบริษัทมีการประชุมนัดพิเศษ เห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนและการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) รวมถึงการขายหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) บางส่วน ตามแผนการจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาวของบริษัทฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ชำระเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ใช้สำหรับลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีที่อินโดนีเซียเมื่อไตรมาส 3 ปี 2564 รวมถึงสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน
นางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการเห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 2,751.2 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 23,151,478,730 บาท โดยการออกหุ้นใหม่จำนวนไม่เกิน 275,120,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 10 บาท เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 239,235,000 หุ้น ซึ่งรวมการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% โดยจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น นอกจากนี้บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 35,885,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้น โดยยืมหุ้นจากบริษัท ปตท.
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังเห็นชอบการจำหน่ายหุ้น ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด ให้แก่บริษัท ปตท. (PTT) และหรือ บริษัท สยาม แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง (SMH) ซึ่งมีปตท. ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 100% จำนวนทั้งสิ้น 304,098,630 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10.78 % รวมทั้งสิ้นประมาณ 22,351 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาก่อนหักเงินปันผลของ GPSC และให้นำทั้ง 2 รายการเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
การเพิ่มทุนและการจำหน่ายหุ้น GPSC ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่ ปตท. และธนาคารพาณิชย์ จากเงินกู้ยืมระยะสั้น (Bridging Loan) ที่มีการกู้ยืมเพื่อรองรับการเข้าลงทุนของบริษัทฯ ใน PT Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) เมื่อไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ทั้งนี้ การเพิ่มทุนและการจำหน่ายหุ้น GPSC ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาวของบริษัทฯ
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตสู่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีสายโอเลฟินโดยได้เข้าร่วมลงทุนใน CAP ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ไทยออยล์สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจโอเลฟินได้อย่างรวดเร็วและทำให้โครงสร้างธุรกิจมีความสมบูรณ์ ครอบคลุมธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี สร้างโอกาสการเติบโตในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสูงมาก
นอกจากนี้ การลงทุนนี้ยังเป็นการขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทยออยล์ กับ CAP โดยไทยออยล์ได้เข้าทำสัญญาเพื่อส่งผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบให้กับ CAP นอกจากนี้ ยังได้เข้าทำสัญญาเพื่อจำหน่ายพอลิเมอร์เรซิน และผลิตภัณฑ์ในรูปของเหลวอื่นๆ ของ CAP อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ บอร์ดมีมติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท กำหนดขึ้นวัน XD วันที่ 3 มี.ค. 2565 และจ่ายเงินวันที่ 25 เม.ย. รวมทั้งปีบริษัทจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.60 บาท