คลุกวงในหุ้น : สนามมวย IFEC

โดย …สุนันท์ ศรีจันทรา

การบริหารงานภายในบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาขน)หรือ IFEC ยังอยู่ในภาวะฝุ่นตลบอยู่ ไม่รู้ใครควรมีอำนาจที่แท้จริง ระหว่างกรรมการใหม่ และฝ่ายบริหารชุดเก่า โดยผู้ถือหุ้นรายย่อย ตกอยู่ในฐานะกองเชียร์ที่ต้องลุ้นระทึก และไม่รู้ว่า ศึกภายในแห่งนี้จะจบลงเมื่อใด

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของ IFEC แต่ถูกตีรวน เตะถ่วง ต่อต้านมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา โดยกรรมการชุดเก่า กลุ่มนายวิชัย ถาวรวัณน์ยง อดีตประธานกรรมการบริษัท

คำสั่งใดของก.ล.ต.มักถูกเพิกเฉย ต่อต้าน ล่าสุด ผู้บริหารกลุ่มนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะถูกกล่าวโทษ ในความผิดใช้ข้อมูลภายในแสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น หรือ อินไซเดอร์เทรดดิ้ง เอาเปรียบประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป ได้ออกมาสวนหมัด ก.ล.ต. ไม่ยอมรับคำสั่งปลดพ้นจากการบริหาร IFEC

เช้าวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา IFEC ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ประกอบด้วย พล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ และนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูมิ เมื่อบ่ายวันที่ 5 กันยายน โดยมีมติปลดนายศุภกร แย้มงามเหลือ รองประธานบริษัทเจ้าหน้าที่บริหาร พ้นจากทุกตำแหน่งในบริษัท เนื่องจาก แต่งตั้งตัวเองขึ้นปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยพละการ

นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทยังมีมติ แต่งตั้ง พล.ต.บุญเลิศ เข้ารักษาการตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้วย ซึ่งเท่ากับ เป็นการยึดอำนาจใน IFEC จากกลุ่มนายวิชัย

แต่บ่ายวันเดียวกัน IFEC ได้ส่งหนังสือตอบโต้มติคณะกรรมการ โดยระบุถึงนายศุภกร ไม่ได้ขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารโดยพละการ แต่เป็นไปตามแบบ 56-1 ของบริษัทที่กำหนดให้รองประธานฯ ปฏิบัติหน้าที่บริหารงานทั่วไป มีหน้าที่บริหารงานภายในบริษัทและบริษัทลูกได้

และการที่กรรมการบริษัทที่เหลือ 2 คน ซึ่งไม่เพียงพอ จะเป็นองค์ประชุมได้ตามข้อบังคับของบริษัท มีมติปลดและแต่งตั้งผู้บริหารบริษัท และแต่งตั้งตัวเองเป็นรักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จึงขัดข้อบังคับบริษัทและขัดต่อกฎหมาย เพราะกรรมการที่เหลือ ทำได้เพียงการจัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเลือกกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงเท่านั้น

มติคณะกรรมการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด

ท้ายคำชี้แจง ยังเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยกเลิกข่าวสารสนเทศ มติคณะกรรมการบริษัทอีกด้วย

ขณะนี้ไม่มีใครตอบได้ว่า ฝ่ายไหนมีความชอบธรรมตามกฎหมาย ในการบริหารบริษัทจดทะเบียนระหว่างฝ่ายคณะกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมาย พล.ต. บุญเลิศ นพรัตน์ กับฝ่ายกรรมการชุดเก่าที่สร้างความเสียหายให้ IFEC โดยนายศุภกร ถูกส่งเข้ามาเป็นตัวแทนเพื่อยึดครอง IFEC ต่อไป

พล.ต.บุญเลิศ ควรจะเดินเข้าไปนั่งทำงานใน IFEC และมีอำนาจสั่งการได้แล้ว ตามมติคณะกรรมการบริษัทฯ ส่วนนายศุภกร จะต้องเก็บกระเป๋ากลับไปกินข้าวบ้านได้แล้ว

แต่ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือยัง ??? นายศุภกร เก็บของกลับบ้านแล้วหรือยังนั่งบัญชาการใน IFEC ต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนพล.ต .บุญเลิศ สามารถเหยียบย่างเข้าไปใน IFEC หรือยัง ทั้งที่มีความชอบธรรมตามมติคณะกรรมการฯ และเป็นอดีตนายทหาร ที่ไม่ควรจะเกรงกลัวอันธพาลหน้าไหน หรือหวั่นไหวอดีตผู้บริหารจะตีรวนในรูปแบบใด

ความขัดแย้งระหว่างอดีตกรรมการและผู้บริหารชุดเก่า กับคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ กำลังทำให้ IFEC มีสภาพไม่แตกต่างจากเวทีมวย และมีนักมวยสองกลุ่มขึ้นไปชกกัน

เพียงแต่กลุ่มหนึ่งเป็น “มวยอาชีพ” ชกตามกติกา ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็น “มวยวัด” พยายามหาทางชกใต้เข็มขัดตลอด ไม่ฟังกรรมการ ไม่สนใจเสียงโห่ของคนดู

ไม่รู้สึกสลดกับคำสาปแช่ง และเสียงรุมประณาม จากผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 3 หมื่นรายของ IFEC

วิกฤตการณ์บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ที่ยืดเยื้อ แก้ยาก เพราะมีกลุ่มคนพยายามเตะถ่วง ตีรวน ต่อต้านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และคนกลุ่มนี้ เป็นพวกมวยวัด ที่ไม่ยึดกติกาใด ๆ ไม่ตระหนักถึงเสียงประณามจากสังคม เหมือนคนที่สิ้นไร้ไม้ตอกแล้ว