HoonSmart.com>> “ไวส์ โลจิสติกส์” เล็งกำไรปี 64 โตกว่า 100% จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่บูมมาก ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 9,000 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากธุรกิจใหม่ขนส่งสินค้าไปขึ้นรถไฟลาว-จีน ตั้งเป้าปีแรก 2-3 พันตู้ จะขยายสาขาในเอเชีย 1-2 สาขาใช้งบราว 200 ล้านบาท ขยายคลังสินค้าอีก 2 หมื่นตารางเมตร เตรียมนำบริษัทย่อย ETL เข้าตลาดหุ้นปลายปีนี้ คาดยื่นไฟลิ่งกลางปี มองทิศทางค่าระวางเรือจะยังสูงไปถึงกลางปีนี้
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า กำไรปี 2564 คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 100% เมื่อเทียบจากปี 2563 จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่เติบโตมาก โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ และจีน มีการฟื้นตัวเร็วและแรง ทำให้วอลุ่มมากในธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Boarder โดยบริษัทย่อย ETL) และยังมีปัญหา Supply chain ทำให้ค่าระวางเรืออยู่ในระดับสูง ดังนั้นบริษัทได้รับผลดีทั้งวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น และราคาที่สูงขึ้นด้วย
ส่วนปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 9,000 ล้านบาท เติบโต 20% มีธุรกิจใหม่ในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ โดยการขนส่งทางรถวิ่งไปเวียงจันทร์ ประเทศลาว แล้วส่งสินค้าต่อผ่านทางรถไฟไปจีน ซึ่งบริการนี้บริษัทฯได้เริ่มทำเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าในอนาคตจะเป็นที่นิยม ตอนนี้วอลุ่มยังไม่มาก แต่ก็ทำได้หลายสิบตู้แล้ว วอลุ่มจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าหมายเดือนละ 200 ตู้ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 2-3 พันตู้
นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายเครือข่ายในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะขยายสาขาในเอเชีย 1-2 สาขาในประเทศอื่นที่ไม่ใช่มาเลเซีย และจีน คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 150-200 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมีสาขาที่มาเลเซีย คือที่กัวลาลัมเปอร์, ยะโฮร์ บาห์รู และปีนัง ส่วนที่จีนมี 4 สาขา คือที่เซี่ยงไฮ้, หนิงโป, เซิ้นเจิ้น และกวางโจว
บริษัทฯยังมีแผนจะขยายคลังสินค้าที่อยุธยา และบางนา อีก 2 หมื่นตาราเมตร จากปี 2564 ที่มีการขยายคลังสินค้า 1 หมื่นตาราเมตร รวมถึงการจะซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มอีก 200 ตู้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้จะมาจากการขนส่งทางทะเล 45%, การขนส่งข้ามพรมแดน 25%, การขนส่งทางอากาศ 25% และรายได้อื่นอีก 5%
กรรมการผู้จัดการ WICE กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการนำบริษัทย่อย ETL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปลายปีนี้ คาดว่าจะยื่นข้อมูลไฟลิ่งให้สำนักงานก.ล.ต.พิจารณาในกลางปีนี้ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำมาใช้ในการขยายงานการทำธุรกิจ Cross Boarder ที่การเติบโตเร็วมาก และมีความต้องการใช้เงินเรื่อย ๆ ทำให้ตัดสินใจที่จะนำบริษัทย่อยเข้าตลาดฯ และสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัท ETL ก็ยังมีอยู่มาก โดยปัจจุบัน D/E เกิน 2 เท่า การเข้าตลาดทำให้ฐานทุนแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ WICE ถือหุ้นในบริษัท ETL ประมาณ 51% หลังขาย IPO แล้วก็คาดว่าจะลดสัดส่วนลงเหลือประมาณ 40%
นายชูเดช กล่าวว่า ขณะนี้ค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มที่จะทรงตัวสูงไปถึงกลางปี 2565 จากปัญหา Supply Chain ที่ยังมีอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาของทั้งระบบทั่วโลก โดยเรือขนส่งยังขาดแคลน และการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก็ยังอยู่ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้า ซึ่งค่าระวางเรือที่สูง ก็ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้ที่สูงตามไปด้วย พร้อมเผยในปีที่ผ่านมามีลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการอยู่จำนวนมาก และปัจจุบันก็ยังใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ