ดาวโจนส์ลบ 21 จุด Nasdaq บวก 1.5% จ้างงานแกร่ง

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ลบ 21 จุด หุ้นแอมะซอนกำไรดีเกินคาด ดึง Nasdaq บวก 1.5% จ้างงานแกร่ง หนุนเฟดจะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาเหนือ 1.9% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2019 ดีต่อกลุ่มธนาคาร ส่วนหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลง ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 92.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 4 ก.พ. 2565 ปิดที่ 35,089.74 จุด ลดลง 21.42 จุด หรือ 0.06% นักลงทุนขานรับจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ที่ดีกว่าคาด สนับสนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับดอกเบี้ยในเชิงรุก

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,500.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.09 จุด, +0.52%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,098.01 จุด เพิ่มขึ้น 219.19 จุด, +1.58%

ดัชนี Nasdaq ฟื้นตัวด้วยแรงหนุนจากหุ้นแอมะซอนหลังรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 13.5% สูงสุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่ปี 2015 ส่งผลให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 190 พันล้านดอลลาร์

ผลการดำเนินงานที่สูงกว่าคาดทำให้หุ้น Snap พุ่ง 58.8% และหุ้น Pinterest เพิ่มขึ้น11.2%.

ตลาดยังขานรับการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของกระทรวงแรงงานที่เพิ่มขึ้น 467,000 ตำแหน่งสูงกว่าสิ้นปี 2021 อย่างมากและสูงกว่า 150,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 4.0% จาก 3.9%

นักวิเคราะห์จากExencial Wealth Advisors กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานถือเป็นข่าวดี สะท้อนว่ามีคนเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น

ข้อมูลการจ้างงานที่แกร่งเกินคาด สนับสนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะดำเนินการเชิงรุกในการปรับขึ้นดอกเบี้ยและถอนมาตรการกระตุ้น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์จาก LPL Financial กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงาน ทำให้เชื่อว่าเฟดจะเริ่มปรับดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งหรือมากกว่านั้นในปีนี้

ผลประกอบการของแอมะซอนส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยให้เพิ่มขึ้น 3.7%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาเหนือ 1.9% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 หลังการรายงานข้อมูลการจ้างงาน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.7%

ในรอบสัปดาห์นี้ สามดัชนีหลักปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.6% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.4%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นักลงทุนยังวิเคราะห์ผลการประชุมของธนาคารสหภาพยุโรป(European Central Bank:ECB) และธนาคารกลางอังกฤษในวันก่อน

กลุ่มรถยนต์ที่ลดลง 3.34% หลังยอดขายรถในอังกฤษเดือนที่แล้วต่ำกว่าระดับก่อนการระบาดของไวรัส 23%

นักลงทุนยังวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ โดยยอดค้าปลีกยูโรโซนเดือนธันวาคมลดลง 3% จากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนก่อน ส่วนคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศสลดลง 0.2%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 462.15 จุด ลดลง 6.48 จุด, -1.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.40 จุด ลดลง 12.44 จุด, -0.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,951.38 จุด ลดลง 54.25 จุด, -0.77%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,099.56 จุด ลดลง 268.91 จุด, -1.75%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 92.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2004 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 93.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2004