HoonSmart.com>>ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หนุนกลุ่มเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น 1,287 ล้านบาท พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามและโซลาร์รูฟท็อปอินโดนีเซีย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการไทยลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนเติบโตกว่า 50% ต่อปี
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK-เอ็กซิมแบงก์) และนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินรวม 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,287 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวมกว่า 50 เมกะวัตต์ (สัญญารับซื้อไฟฟ้า 40 เมกะวัตต์) ที่จังหวัดกว๋างหงาย เวียดนาม และโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ในรูปแบบข้อตกลงการซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตจากระบบที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงานหรืออาคารของผู้ประกอบการธุรกิจ โดยผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด (Private Power Purchase Agreement : Private PPA) กำลังการผลิตรวมกว่า 30 เมกะวัตต์ ในอินโดนีเซีย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK บุกเบิกการสนับสนุนโครงการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติและนโยบายของภาครัฐในการสร้างหลักประกันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนในราคาที่ย่อมเยา ควบคู่กับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถขยายการลงทุนไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา EXIM BANK สนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน เติบโตกว่า 50% ต่อปี ขณะที่กลุ่ม SSP เป็นนักลงทุนไทยที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเวียดนามและอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องกับแผนความร่วมมือด้านพลังงานภูมิภาคอาเซียนที่กำหนดนโยบายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีสัดส่วน 35% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมภายในปี 2568
“EXIM BANK เดินหน้าขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนของไทย ควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวม ภายใต้ความร่วมมือในหลายมิติกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ลูกค้าที่มีศักยภาพให้เกิดการขยายธุรกิจและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและองค์ความรู้ภายในภูมิภาคอาเซียนเพื่อผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ที่เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในท้องถิ่นและประชาคมโลกในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว