ความจริงความคิด : เป็นเรื่องปกติที่คนอื่นก็ทำ คนละเรื่องกับความถูกต้อง

โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
ตามข่าววางแผนภาษีด้วยตั๋ว PN ของท่านนายกฯแล้ว ก็ต้องขอบคุณสำหรับกลยุทธ์วางแผนภาษีที่เดิมไม่คิดจะใช้เพราะมองว่าเป็นการหลบหลีกภาษี เสี่ยงต่อการถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง แต่เพราะท่านนายกฯนี้เองที่ทำให้มั่นใจได้ว่า การใช้ตั๋ว PN วางแผนภาษีเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ท่านอธิบดีสรรพากรก็ออกมาช่วยยืนยันความถูกต้องอีกแรงหนึ่งด้วย

แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกตะหงิดๆกับคำชี้แจงของท่านนายกฯเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คือ “ตั๋ว PN เป็นเรื่องปกติคนอื่นก็ทำ ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ…”

“การเป็นเรื่องปกติที่คนอื่นก็ทำ” กับ “ความถูกต้อง” เป็นคนละเรื่องเดียวกันเลยครับ ผมนึกถึงประโยคเตือนใจที่ติดอยู่หน้าห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเดิมที่อยู่ใกล้ศูนย์ประชุมสิริกิต ที่ว่า

“สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น

สิ่งที่ผิดคือ ผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น”

“สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดคือ ผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น”

สรุปง่ายๆ คือ ต่อให้ทุกคนทำเป็นปกติ ถ้ามันผิด มันก็ผิด หรือ ต่อให้มีเราทำแค่คนเดียว ถ้ามันถูก มันก็ถูก
หรือตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่อง “กาลามสูตร” หลักปฏิบัติต่อเรื่องที่สงสัย โดยให้ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนจะเชื่อ-ไม่เชื่อ ๑๐ ประการ ดังนี้

1. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะฟังตามๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถือว่าเป็นของเก่าเล่าสืบๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะอ้างคัมภีร์หรือตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรรก หรือเห็นว่าเป็นเหตุเป็นผลกัน
6. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะคิดคาดคะเนอนุมานเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะคิดเอาตามอาการที่ปรากฏ
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเห็นว่าต้องกับความเห็นของตนหรือเข้ากับทฤษฎีที่มีอยู่
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะว่าผู้พูดควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะว่าผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา

คำกล่าวอ้างของท่านนายกฯ ก็น่าจะเป็นข้อ 1 “อย่าเพิ่งเชื่อเพราะฟังตามๆกันมา” อ้าวแล้วท่านอธิบดีสรรพากรออกมาพูดว่า “ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย” ก็ “อย่าเพิ่งเชื่อเพราะว่าผู้พูดควรเชื่อได้” สิ อันนี้ต่างกันครับ เพราะท่านอธิบดีสรรพากร คือ ผู้ที่มีอำนาจและรับผิดชอบเรื่องภาษีโดยตรง คำพูดของท่านสามารถเชื่อถือได้ครับ แต่ประโยคนี้ใช้เตือนใจเราในบางครั้งอย่างเช่น พวกมิจชอบใช้ คือ อ้างอิงกูรูที่น่าเชื่อถือมาหลอกเอาเงินจากกระเป๋าเรา เป็นต้น

สิ่งที่ตะหงิดๆเรื่องที่สอง ก็คือ คำพูดของท่านนายกฯ ที่ว่า

“แม้ดิฉันจะอายุน้อยกว่าท่านแต่ก็มั่นใจว่าดิฉันเสียภาษีให้รัฐมากกว่าท่านแน่นอน…”

ผมก็เชื่อว่าจริงครับ ท่านนายกฯน่าจะเสียภาษีมากกว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศ เพราะการเก็บภาษีเงินได้ของสรรพากรไทยจะเก็บจาก “เงินได้สุทธิ” ซึ่งมาจาก เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน ดังนั้นหากใครมีเงินได้สุทธิมาก ก็ต้องเสียภาษีมากเป็นธรรมดา

แต่การเสียภาษีมาก กับ การเสียภาษีถูกต้อง ก็เป็นคนละเรื่องกัน ตัวอย่างเช่น หากมีการหลบหลีกภาษีเพื่อทำให้เงินได้สุทธิลดน้อยลง ทำให้เสียภาษีน้อยลงกว่าที่ควรจะเสีย แม้จะเสียภาษีมาก แต่ก็ไม่ถูกต้อง เพราะเสียน้อยกว่าที่ควรเสียครับ หากมองว่าใครเสียภาษีมาก คือคนที่เสียภาษีถูกต้อง ต่อไปสรรพากรก็คงมานั่งตรวจจับคนที่เสียภาษีน้อยๆว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ทำนองจับแต่ปลาซิว ปลาสร้อย

สรุปสุดท้าย ก็ขอขอบคุณทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ได้ทำการบ้าน ทำให้พวกเราชาวบ้านได้รู้อะไรดีๆอีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม เรื่อง “ตั๋ว PN” ก็อยากให้ฝ่ายค้านดำเนินการต่อเพื่อหาข้อยุติที่ถูกต้องด้วยครับ ขอบคุณครับ