SCC โชว์กำไรปี 64 แตะ 4.7 หมื่นลบ. โต 38% ปันผลระหว่างกาล 10 บาท

HoonSmart.com>> “ปูนซิเมนต์ไทย” โชว์กำไรปี 64 เฉียด 4.72 หมื่นล้านบาท เติบโต 38% กวาดรายได้จากการขาย 5.30 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ ด้านธุรกิจเคมิคอลส์ผลงานดีขึ้น บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 10 บาท/หุ้น ขึ้น XD 7 เม.ย. จ่ายเงิน 26 เม.ย.65 รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผลสูงกว่าปี 63

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2564 กำไรสุทธิ 47,173.99 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 39.31 บาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 34,143.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 28.45 บาท

ผลการดำเนินงานปี 2564 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 530,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วนใหญ่จากราคาและปริมาณขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และมี EBITDA เท่ากับ 91,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน และมีกำไรปี 2564 เท่ากับ 47,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมิคอลส์

ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานปกติในปี 2564 เท่ากับ 48,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน ธุรกิจแพคเกจจิ้ง มีกำไร 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
จากปีก่อน รายได้จากการขายเท่ากับ 124,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน และมี EBITDA เท่ากับ 21,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน โดยมี EBITDA Margin อยู่ที่ 17% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 18% ในปีก่อน

นอกจากนี้มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 17,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,087 ล้านบาท จากปีก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์
11,577 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้น 6,544 ล้านบาท จากปีก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจากธุรกิจอื่นจำนวน 5,966 ล้านบาท หรือ 34% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้น 1,543 ล้านบาท จากปีก่อน และมีเงินปันผลรับในปี 2564 เท่ากับ 11,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,721 ล้านบาท หรือ 66% จากปีก่อน

สำหรับงวดไตรมาสที่ 4 ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 142,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจโดย EBITDA อยู่ที่ 21,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 8,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้มีรายการสำคัญที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ คือ รายการปรับปรุงประมาณการเงินค่าหุ้นที่คาดว่าจะต้องจ่าย (Earn-Out) ของธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) และการปรับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งหากไม่รวมรายการสำคัญดังกล่าว EBITDA จากการดำเนินงานปกติ (Normalized EBITDA) เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Profit) 7,813 ล้านบาท ลดลง14% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

หากเทียบกับไตรมาส 4/63 มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 47% จากผลการดeเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วนใหญ่จากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการช่องทางการขายของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 โดยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 17% และกำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ EBITDA จากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 2% ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลง 19% จากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2564 ในอัตรา 10 บาทต่อหุ้น (คิดเป็น 79% ของกำไรครึ่งปีหลัง) กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)ในวันที่ 8 เม.ย. 2565 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 เม.ย.2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เม.ย.2565 โดยทั้งปี 2564 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตรา 18.5 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 22,200 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับครึ่งปีแรกอัตรา 8.5 บาทต่อหุ้น และเงินปันผลสำหรับครึ่งปีหลังอัตรา 10.0 บาท ต่อหุ้น ขณะที่ในปี 2563 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตรา 14 บาทต่อหุ้น

อ่านข่าว

SCC ไฟเขียว “เอสซีจี เคมิคอลส์” ขายไอพีโอ 3.85 พันล้านหุ้น