บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินหุ้นไทยเดือนก.ย.ไม่สดใส กรอบ 1,690-1,730 จุด นโยบายทรัมป์กดดันตลาดเกิดใหม่ฉุดค่าเงินอ่อนกระทบตลาดทุนและปรับประมาณการบจ. แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินกรอบ SET เดือนก.ย. บริเวณ 1,690-1,730 จุด พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% โดยยังมีปัจจัยต่างประเทศกดดันอยู่พอสมควร นำโดยการอ่อนค่าของสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ (EM) , สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่มีมาที่รุนแรงขึ้น จากเหตุผลดังกล่าวเป็นเหตุให้แนะ Switch กลุ่ม Goods ที่มีความเสี่ยงต่อสงครามการค้าเข้าลงทุน Domestic พร้อมจับตาความผันผวนของค่าเงินในประเทศ EM มีผลโดยตรงต่อตลาดทุนและการปรับประมาณการ (Roll-over) ไปใช้ราคาเหมาะสมปีหน้าในหลายบริษัทฯ อาจเป็น Catalyst สนับสนุนแนวรับ
ทั้งนี้ มองว่า America First ยังคงเป็นปัจจัยหลักกดดันตลาดเกิดใหม่ โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมาเริ่มเห็นหนึ่งความเสี่ยงหลักของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทย นั่นคือ America First หรือนโยบายในการหาเสียงของปธน. Trump ที่ตั้งเป้าทำให้ประเทศสหรัฐ และคนสหรัฐเติบโต เริ่มตั้งแต่การลดภาษี Corporate 35% เหลือ 21%
แต่ปัจจัยที่ส่งผลลบต่อการลงทุนในประเทศต่างๆ นอกสหรัฐเริ่มเห็นได้ชัดผ่านการที่ Trump ถอนตัวออกจากข้อตกลงหลายๆ อย่าง เช่น Paris agreement, ข้อตกลงนิวเคลียร์ การคว่ำบาตร ประเทศอิหร่าน, เกาหลีเหนือ การเจรจาการค้าใหม่ทั้งหมด เช่นNAFTA, ยุโรป และจีน ซึ่งส่งผลให้เริ่มเห็นการไหลออกของเงินทุนจาก EM กลับสหรัฐ สกุลเงินใน EM อ่อนค่า นำมาซึ่งวิกฤตการเงินในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เกิด Twin deficit และท้ายสุดเกิดแรงขายในตลาดหุ้น EM ในขณะที่หุ้นสหรัฐต่างทำระดับ All time high อย่างต่อเนื่อง
“เราประเมินความเสี่ยง America First จะยังเป็นปัจจัยหลักกดดันการลงทุนใน 1-2 ปีข้างหน้า จนหมดวาระของ Trump เว้นแต่การเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.นี้ จะมีเสียงค้านผ่านการโหวต ส.ส. แต่หากเสียง GOP ยังอยู่ในระดับสูง เท่ากับว่าการที่ Trump ดำเนินนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมา ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนในประเทศ ซึ่งอาจทำให้มีการออกมาตรการใหม่ๆ กดดันการลงทุนใน EM , Asia ในระยะที่เหลือได้”บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุ