HoonSmart.com>> หุ้น LEO พุ่งแรงโบรกฯมองบวกต่อดีล M&A บริษัท World Air Logisticsg (WA) เล็งอัพไซด์กำไรสุทธิปี 65 ราว 10% เบื้องต้นประเมิน 213 ล้านบาท เชียร์”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 20 บาท
หุ้นบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์( LEO) ปิดพุ่ง 5.80% มาอยู่ที่ 14.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 176 ล้านบาท วันที่ 25 ม.ค.2565
บล. เคทีบีเอสที แนะ”ซื้อ”หุ้น LEO ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติให้เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท เวิลดิ์ แอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (WA) ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมด Entire Business Transfer (EBT) โดยบริษัทจะรับโอนกิจการทั้งหมดจาก WA ทั้งนี้ บริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ที่บริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 75% ร่วมกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ WA และชำระค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดด้วยเงินสด และ/หรือ หุ้นสามัญของบริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยคิดเป็นมูลค่ารวมของการรับโอนกิจการทั้งสิ้น 275 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก โดยบริษัท World Air Logistics เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจขนส่ง Freight Forwarder โดยบริษัทเป็นสมาชิกใน Thai Airfreight Forwarders Association (TAFA) และ The International Air Transport Association (IATA) มีรายได้ต่อปีราว 500 ล้านบาท ทั้งนี้หากบันทึกรายได้ตามเกณฑ์ของ LEO โดยการบันทึก Gross profit เป็นรายได้ จะคิดเป็นรายได้ราว 100 บาทต่อปี เบื้องต้นประเมินกำไรปี 65 ที่ 213 ล้านบาท และดีล M&A นี้คาดว่าจะมี upside ต่อกำไรสุทธิปี 65 ราว +10%
อย่างไรก็ตาม วานนี้ราคาหุ้น LEO ปรับลงแรง -7% อาจเป็นการ sell on fact จากดีล M&A และปรับตัวลงตามกลุ่ม Logistics ที่ลงแรง โดยถูกกดดันจากค่าระวางที่เริ่มอ่อนตัวลงเป็นอาทิตย์ที่สองติดต่อกัน ทั้งนี้ มองว่าค่าระวางจะยังคงอ่อนตัวลงในช่วงตรุษจีนเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของจีน อย่างไรก็ตาม คงมุมมองว่าค่าระวางจะฟื้นตัวอีกครั้งหลังตรุษจีนและจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯเข้าซื้อกิจการบริษัท เวิลดิ์ แอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (WA) ผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75% ซึ่งบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ดังกล่าว จะเป็นผู้รับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer: EBT) ของบริษัท เวิลดิ์ แอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (WA) รวมถึงการลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการดังกล่าว ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 275 ล้านบาท
การเข้าลงทุนในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนกลยุทธ์ที่จะขยายกิจการที่เป็นธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศและหาพันมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ทางบริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสในการเติบโตในอนาคตและจะสามารถก่อให้เกิดการสร้างเสริมประโยชน์ร่วมกัน (Synergy) และบริษัทฯได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนกัน บริษัท เวิลดิ์ แอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (WA) ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร (International Freight Forwarding) โดยภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทฯ จะสามารถขยายฐานลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจได้มากขึ้น และจะมีความสามารถในการสร้างรายได้และผลงานที่ดีในอนาคต
“ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าทำรายการในครั้งนี้ เนื่องจากลักษณะการประกอบธุรกิจของ WA จะสามารถมาต่อยอดทางธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศให้กับทาง LEO อย่างก้าวกระโดด เพราะรายได้หลักของ WA มาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางกาศ (Air Freight) ในขณะที่ปัจจุบัน LEO มีรายได้หลักมาจากการขนส่งทางเรือ (Ocean Freight) การเข้าทำรายการดังกล่าว จะทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศของ LEO โดยรวม เพิ่มมากขึ้นกว่า 100% หรือรวมเป็นมากกว่า 10,000 ตันต่อปี เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจและการสร้างกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้และการขยายพันธมิตรของบริษัทได้เป็นอย่างดี” นายเกตติวิทย์ กล่าว
นายเกตติวิทย์ กล่าวอีกว่า LEO จะสามารถขยายพันธมิตรทางธุรกิจได้มากขึ้น เนื่องจาก WA ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์มาเป็นระยะเวลานานกว่า 18 ปี ทำให้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจขนส่ง อีกทั้งเป็นพันธมิตรกับสายการบินที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือมากกว่า 50 สายการบิน ซึ่งประโยชน์จากเครือข่ายของสายการบินที่ WA มีอยู่ จะทำให้ LEO มีพันธมิตรที่เป็นสายการบินเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมความสามารถในการสร้างรายได้และการลดต้นทุนได้ดีขึ้น อีกทั้งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ( Freight Forwarder )ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ WA จะช่วยต่อยอดให้บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการโลจิสติกส์ที่มีฐานลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ส่งออกและนำเข้าโดยตรง (Retail Market) และผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Wholesale Market) ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการขยายขอบเขตการดำเนินงานที่หลากหลาย สามารถตอบสนองการให้บริการแก่ลูกค้าได้ครบวงจร พัฒนาและยกระดับการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
หลังเข้าทำรายการในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งในการประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ จะมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทั้งทางเรือ (Ocean Freight) และทางอากาศ (Air Freight) ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีการกระจายของฐานรายได้ที่หลากหลายรวมถึงจะช่วยเพิ่มรายได้รวมของบริษัทในอนาคต และส่งเสริมศักยภาพในการดำเนินงานให้เป็นบริษัทที่มีความสามารถทัดเทียมกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในระดับสากล