ACC เผย “ศุภชัย วัฒนาสุวิสุทธิ์” ขยับถือหุ้น 14.96% ไม่มีแผนเข้าบริหาร

HoonSmart.com>> “แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น” เผย “ศุภชัย วัฒนาสุวิสุทธิ์” ซื้อหุ้น ACC จาก “อรัญญา เกียรติไชยากร” 6.58% หนุนถือหุ้นแตะ 14.96% ไม่ต้องการเข้ามาบริหารกิจการ ยันไม่กระทบการบริหาร โครงสร้างการจัดการ

บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น (ACC) เปิดเผยว่า ตามแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2 ) ประจำวันที่ 19 ม.ค.2565 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งว่า นายศุภชัย วัฒนาสุวิสุทธิ์ ได้ซื้อหุ้นจากนางสาว อรัญญา เกียรติไชยากร จำนวน 88,448,980 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.5856% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อนึ่ง บริษัทได้สอบถามผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่แล้ว ไม่มีความประสงค์จะเข้ามาบริหารกิจการของบริษัท ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวข้างต้น จึงไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานและโครงสร้างการจัดการของบริษัทแต่อย่างใด นอกจากนี้การลงทุนของนักลงทุนรายดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์

สำหรับความคืบหน้าการขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ซี.อี.ไอ. (เชียงใหม่) จำกัด และบริษัท เอซีซีกรีน เอนเนอร์จี จำกัด (เอซีซีกรีน) ทั้งหมดให้กับบริษัท ไทยลานนา ฟู้ด แอนด์คัลเชอรัล เซ็นเตอร์ จำกัด (ไทยลานนา) และความคืบหน้าคดีความของบริษัท ซึ่งความคืบหน้าการขายเงินลงทุนตามที่บริษัท และไทยลานนา ได้ทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินฉบับลงวันที่ 22 ก.ย.2564 (สัญญาซื้อขาย) โดยไทยลานนาตกลงชำระค่าซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินตามสัญญาซื้อขายใหเ้สร็จสิ้น ภายในวันที่ 28 ต.ค.2564 ต่อมาไทยลานนาได้มีคำขอขยายระยะเวลาชำระค่าซื้อและบริษัทได้ขยายระยะเวลาให้แก่ไทยลานนาถึงวันที่ 30 ธ.ค.2564 ซึ่งบริษัทได้รายงานความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามหนังสือที่ ACC 6411/004 ลงวันที่ 23 พ.ย.2564 แล้ว

ต่อมาวันที่ 13 ม.ค.2565 ไทยลานนามีหนังสือถึงบริษัทขอขยายระยะเวลาการซื้อทรัพย์สินออกไปเป็นวันที่ 10 ก.พ.2565 และขอรับโอนหุ้นและทรัพย์สินเฉพาะส่วนของเอซีซีกรีนก่อนการชำระค่าซื้อทรัพย์สินเสร็จสิ้นตามสัญญาซื้อขายเมื่อไทยลานนาได้ชำระค่าซื้อทรัพย์สินให้กับบริษัทแล้วเป็นเงินไม่น้อยกว่า 360.0 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2565 บริษัทได้รับเงินค่าซื้อทรัพย์สินจากไทยลานนาแล้วเป็นเงินจำนวน 363.96 ล้านบาท

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2565 พิจารณาหนังสือของไทยลานนาแล้วมีมติดังนี้ 1.อนุมัติให้ไทยลานนาขยายระยะเวลาการชำระค่าซื้อทรัพย์สินของซีอีไอและเอซีซีกรีนออกไปเป็นวันที่ 31 ม.ค.2565

2. อนุมัติให้ไทยลานนารับโอนหุ้นเฉพาะส่วนของเอซีซีกรีนได้ก่อนการชำระค่าซื้อทรัพย์สินเสร็จสิ้น ตามมติอนุมัติข้อ 1 โดยให้จัดทำเป็นบันทึกข้อตกลงแนบท้ายสัญญาซื้อขายทรัพย์สิน 3. ในการจัดทำบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาซื้อขายทรัพย์สินตามมติข้อ 2 มอบหมายให้นายอังกูร พิมพะกร และนายเสาวภักดิ์สกุลโรมวิลาส เป็นผู้ร่วมกันพิจารณาดำเนินการในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปด้วยความรอบคอบและรัดกุม

ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการได้ข้อยุติแล้วให้แจ้งไทยลานนา ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยด่วนพร้อมทั้งเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อไป

2. ความคืบหน้าคดี (1) คดีที่อดีตกรรมการ 1 คน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 คน เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาบริษัทและกรรมการจำนวน 7 คน ต่อศาลอาญาพระโขนง จำนวน 3 คดี ในความผิดข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จต่อศาลอาญาพระโขนง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2564 โจทก์ทั้ง 3 คดีได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องและศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ทั้ง 3 คดีถอนฟ้องได้

(2) คดีที่บริษัทเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาอดีตกรรมการและนิติบุคคลรวม 9 คน ประกอบด้วย อดีตกรรมการบริษัท 5 คน บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 คน และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดฐานเป็นกรรมการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ต่อศาลอาญาพระโขนง

ศาลอาญาพระโขนงพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์ (บริษัท) อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาพระโขนงไปยังศาลอุทธรณ์วันนี้ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ประทับรับฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 6 ไว้พิจารณา สำาหรับจำเลยที่ 1 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9 ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามิได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของโจทก์ ไม่มีอำนาจที่จะร่วมพิจารณาหรือลงมติใด ๆ ที่จะเป็นคุณหรือเป็นโทษกับโจทก์ได้ อีกทั้งพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องยังไม่พอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 7 ที่ 8 และ ที่ 9 ได้ก่อหรือสนับสนุนกรรมการผู้จัดการ หรือ ผู้บริหารของโจทก์ให้กระทำผิด ฟ้องของโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 1 ที่ 7 ที่ 8 และ ที่ 9 จึงไม่มีมูล