RWI เปิดกลยุทธ์เติบโตปีเสือ – วางแผนเพิ่มกำลังผลิต & ขายโต 15%

HoonSmart.com>> RWI เปิดกลยุทธ์การแข่งขันปีนี้แบบ Customer Centric  วางแผนเพิ่มการผลิตและขายลวดเหล็ก  15% สูงสุดรอบ 3 ปี รับมือตลาดเติบโต 

เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์  (RWI ) เปิดเผยกลยุทธ์ปี 2565 ว่า บริษัท มี ฯ กลยุทธ์การแข่งขันแบบ Customer Centric และการบริหาร โดยเน้นการลดต้นทุนทางตรงต่อหน่วย , ลดต้นทุนขายและบริหารต่อหน่วย โดยเพิ่มความเร็วและปริมาณผลผลิตต่อเวลา , เน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง เพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการสินค้าวัตถุดิบให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ การบริหารการจัดซื้อและจัดการระดับสต๊อกวัตถุดิบ ให้อยู่ในระดับต่ำ , มีสินค้าพร้อมส่ง รวมทั้งบริหารลูกหนี้ให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อบริหารเงินสดให้สูงขึ้น และลดภาระดอกเบี้ย ส่วนการบริหารการขายและราคาสินค้า ต้องเข้าถึงลูกค้าที่ใช้สินค้าหลากหลาย ตามกำลังการผลิตที่มีอยู่ เพื่อลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเครื่องจักร

กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ตลาดของผู้ผลิตลวดเหล็ก มีการแข่งขันสูง มีผู้ผลิตหลัก ประมาณ 10-15 ราย แต่ยังเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากการขยายตัวของการก่อสร้าง มีลูกค้าธุรกิจ ประมาณ 300-400 ราย ประกอบด้วยผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตหลายประเภท บริษัทก่อสร้าง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทก่อสร้างโครงการ ขนาดใหญ่ และบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ

” บริษัท ฯ ขอบคุณผู้ถือหุ้นจำนวนมาก ที่แปลงสภาพ Warrant เป็นหุ้นสามัญและเข้าซื้อขายในตลาดวันที่ 18 ม.ค.นี้  ซึ่งปีนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มการผลิตและขายลวดเหล็ก อีกประมาณ 15% เพิ่มขึ้นจากปี 2564  สูงกว่าในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนกำไรก็วางเป้าเติบโตจากการผลิตที่มีประสิทธิภาพ-คุณภาพสูงขึ้น  การขายเน้นครอบคลุมตลาดและจำนวนลูกค้าในทุกภาคมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อตันและปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นตรงตามการขยายตลาด” กรรมการผู้จัดการ กล่าว

ทั้งนี้ ผลดำเนินงาน 9 เดือนปี 2564 บริษัท ฯ มีรายได้จากการผลิตและการขาย 617.6 ล้านบาท เติบโต 47.7% จาก 418.0 ล้านบาท ในปี 2563 และมีรายได้จากกำไรการวัดมูลค่าการลงทุน และรายได้อื่น ๆ 129.9 ล้านบาท ขยายตัว 140% จาก 54.1 ล้านบาท ในปี 2563 บริษัทมีกำไรรวมสุทธิ 166.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464% จากช่วงเดียวกันปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 29.4 ล้านบาท