“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,355 -1,360 จุด แนะ TACC-AWC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองหุ้นวันนี้แนวรับ 1,355 -1,360 จุด แนวต้าน 1,372 จุด ระหว่างรอตัวเลข US PCE มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ย ด้าน GDP ไตรมาส 1/67 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 1.6% ต่ำสุดในรอบ 2 ปี แนะ TACC-AWC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,355 -1,360 จุด แนวต้าน 1,372 จุด ระหว่างรอตัวเลข US PCE มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ย และรอรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,OSP,TU,ITC,KCG กลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC รพ. BDMS,BCH และกลุ่มโรงแรม ERW,AWC,MBK

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.98%, S&P500 -0.46%, Nasdaq -0.64% หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผย GDP Q1/67 +1.6% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ US PCE Q1/67 +3.4% และ Q4/66 +1.8% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง ค่ำวันนี้ติดตาม US PCE มี.ค. คาด 2.6% และ ก.พ. 2.5% YoY เบื้องต้นตลาดคาดเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ หากเงินเฟ้อยังสูงกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบ WTI มิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.76 ดอลลาร์ อยู่ที่ 83.51 ดอลลาร์ /บาร์เรล Brent มิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.99 ดอลลาร์ อยู่ที่ 89.01 ดอลลาร์ /บาร์เรล หลัง รมว.คลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลน ชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และคาดจะปรับ GDP ขึ้นหลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลาง อิสราเอลใข้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเมืองราฟาห์

ทองคำ Comex Gold มิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,342.50 ดอลลาร์ /ออนซ์ หลัง US GDP Q1/67 ขยายตัวต่ำกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนเลือกถือทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 37.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.706 %

ดัชนี BDI วานนี้ -31 จุด อยู่ที่ 1,743

BitCoin เช้านี้ -0.18% อยู่ที่ 63,948 ดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.35 บาท) แนวโน้ม 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ, YoY ตามยอดขายผ่าน 7-Eleven และมีโมเมนตัมดีต่อใน 2Q67 จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C

ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 232 ล้านบาท +12%YoY และ 254 ล้านบาท +10%YoY

หุ้น AWC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.40 บาท) กำไรสุทธิปี2566 อยู่ที่ 5.0 พันลบ.,+31%YoY(มี Extra Gain ราว +3.9 พันลบ.) หนุนด้วย EBITDA +27%YoY โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจ Hotel(+119%YoY) และ Retail(+22%YoY) ตามการฟื้นตัวหลัง Covid-19

ส่วนผลการดำเนินงานปกติ 1Q67 นี้ คาดยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากหน่วยธุรกิจ Hotel และ Retail หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1Q67 ที่ 9.37 ล้านคน, +44%YoY ทั้งนี้ทางบริษัทวางเป้าในส่วนของธุรกิจ Hotel จะมี occ. Rate ที่75%(เท่า PreCovid-19 ปี62/ ปี66 occ. Rate อยูที่ 64.6%) และ ADR ที่ 5,858 บาท,+3.5%YoY(+25%เทียบ PreCovid-19 ปี62)